dyslipidemia ไขมันในเลือดสูง

Dyslipidemia ไขมันในเลือดสูง

Dyslipidemia ไขมันในเลือดสูง

โรคไขมันในเลือด-สูง (Dyslipidemia) คือ โรคที่มีระดับไขมันในเลือด-สูงกว่าค่าที่ถูกกำหนดขึ้น ซึ่งค่าปกติได้มาโดยการเก็บข้อมูลทางสถิติของระดับไขมันในเลือดของคนทั่วไป โดยพบว่าเมื่อมีค่าเกินระดับหนึ่งแล้วบุคคลนั้น ๆ ก็จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและตามมาคือโรคหัวใจขาดเลือด (กล้ามเนื้อหัวใจตาย) การที่บุคคลใดควรจะมีระดับไขมันเท่าใด และจะเลือกการรักษาแบบไหนขึ้นอยู่กับว่ามีความเสี่ยงอื่น ๆ ร่วมด้วยอีกกี่ความเสี่ยง ดังนั้นการกำหนดระดับไขมันในแต่ละคนจึงอาจไม่เท่ากัน 

โดยรวมโรคนี้พบในคนเชื้อชาติตะวันตกมากกว่าคนเชื้อชาติเอเชีย และพบในคนที่อาศัยในเขตเมืองมากกว่าในเขตชนบท สำหรับในประเทศไทย สำนักงกงานสถิติแห่งชาติไม่ได้เก็บรวบ รวมข้อมูลผู้ป่วยที่มีโรคไขมันในเลือด-สูง แต่อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มที่โรคนี้จะพบมากขึ้นเรื่อย ๆ สาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตและการบริโภคเป็นสำคัญ

สาเหตุของโรคไขมันในเลือดสูง

1. สาเหตุจากกระบวนการเมตาบอลิซึมของไขมันที่ผิดปกติเอง
1. สาเหตุที่ทำให้มีระดับคอเลสเตอรอลสูงกว่าปกติ แต่ระดับไตรกลีเซอไรด์ปกติ
1. เกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับตัวรับไขมันชนิด LDL (LDL recep tor) ซึ่งเรียกภาวะนี้ว่า Familial cholesterolemia (FM) 
2. เกิดจากปัจจัยสิ่งแวดล้อมภายนอกร่วมกับมีพันธุกรรมบางอย่างที่เสียงต่อการมีไขมันในเลือด-สูงเรียกภาวะนี้ว่า Polygenic hypercholesterolenia สางพป็นสานสานสางที่บอยที่สุดที่สุดพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุนี้อาจมีหลายตัวบนหลายโครโมโซม ซึ่งปัจจุบันยังไม่ทราบชนิดพันธุกรรมที่ชัดเจน ซึ่งปัจจัยจากสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การกินอาหารที่มีไขมันเป็นส่วนมากเกินไป, การกินอาหารที่ประกอบด้วยไขมันอิ่มตัวสูง (มักเป็นไขมันจากสัตว์), มีไขมันชนิดคอเลสเตอรอล (เป็นไขมันจากสัตว์), กินอาหารที่มีใยอาหาร (ผัก ผลไม้) น้อย, การมีน้ำหนักตัวเกิน, ดื่มแอลกอฮอล์, ไม่ออกกำลังกาย, การใช้เครื่องอำนวยความสะดวกมากเกินไป เป็นต้น
3. เกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับโปรตีนที่ประกอบกับไขมันชื่อ Apo B-100 เรียกภาวะนี้ว่า Familial defective apo B-100 (FDB) 
4. เกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับตัวรับไขมันชนิด LDL (LDL recep tor) พาะที่อยู่บนตับเรียกว่า Autosomal recessive hypercholesterolemia (ARH) 
5. เกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับการดูดซึมไขมันที่ลำไส้เล็กส่วนต้น เรียกภาวะนี้ว่า Sitosterolemia พบภาวะนี้ได้น้อยมากเช่นกัน

2. สาเหตุที่ทำให้มีทั้งระดับโตรกลีเซอไรด์และระดับคอเลสเตอรอสูงกว่าปกติ
1. เกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับเอนไซม์ที่สลายกลุ่มไขมัน Chylorni cron และ VLDL ซึ่งได้แก่ Lipoprotein lipase และ Apo-C-II เรียกภาวะนี้ว่า กลุ่มอาการ Familial chylomicronemia syndrome wuได้ประมาณ 1 คนใน 1 ล้านคน ผู้ป่วยจะมีระดับไตรกลีเชอไรด์ขึ้นสูงมากกว่า 1,000 me/dl (มิลิกรัม/เดชิลิตร) ส่วนระดับคอเลสเตอรอลสูงปานกลาง
2. เกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับโปรตีนที่ประกอบกับไขมันชื่อ Apo-E เรียกภาวะนี้ว่า Familial dysbetalipoproteinemia (FDBL) ผู้ป่วยจะมีระดับไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอลขึ้นสูง
3. ไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่ชัดเจนแต่มีหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมเรียกภาวะนี้ว่า Fanalial hypertriglyceridemia (FHTG) เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย โดยพบได้ประมาณ 1 คนใน 500 คน ผู้ป่วยจะมีระดับไตรกลีเซอไรด์อยู่ในช่วง 250 – 1,000 mg/dl ส่วนระดับคอเลสเทอ รอลขึ้นสูงเล็กน้อยไม่เกิน 250 mg/dl
4. ไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่ชัดเจนแต่มีหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมเรียกภาวะนี้ว่า Faกาlial combined hyperlipidemia (FCHL) เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด โดยพบได้ประ มาณ 1 คนใน 200 คน ผู้ป่วยจะมีระดับไตรกลีเซอไรด์อยู่ในช่วง 200 – 800 mg/dl มีระดับคลอเลสเตอรอลอยู่ในช่วง 200 – 400 mg/dl การแยกสาเหตุจากภาวะ Familial hypertriglyce ridemia ข้างต้นต้องอาศัยการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่จำเพาะลงไป อนึ่ง สาเหตุที่เกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรมยังมีอีกหลายภาวะ นอกเหนือจากที่ได้กล่าวไปแล้วแต่พบได้น้อยมากมาก จึงไม่ขอกล่าวถึง รวมทั้งยังมีโรคไขมันตำที่เกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรมอีกหลายโรคด้วย

3. สาเหตุจากการเป็นโรคอื่น ๆ แล้วทำให้ระบบเมตาบอลิซึมของไขมันผิดปกติได้แก่
1. โรคเบาหวาน ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิด 1 (ชนิดที่เป็นตั้งแต่อายุน้อยๆ) จะไม่เป็นโรคไขมันสูง ถ้าคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี แต่ในผู้ที่เป็นเบาหวานชนิด 2 (ชนิดที่ดื้อต่ออินซูลิน) จะมีระดับไขมันสูงแม้จะคุมน้ำตาลได้ดีก็ตาม เนื่องจากผู้ ป่วยเบาหวานชนิด 2 นี้จะมีภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน (ฮอร์โมนควบคุมน้ำตาลในร่างกาย) และมีระดับอินซูลินขึ้นสูง ซึ่งอินซูลินจะทำให้เอนไซม์ย่อยสลายไขมันทำงานลดลง จึงทำให้ไขมันกลุ่ม Chylomicron และ VLDL เพิ่มขึ้น และอินซูลินยังทำให้เนื้อเยื่อต่าง ๆ ปลดปล่อยไขมันออกมามากขึ้น ทำให้เซลล์ตับผลิตไขมันและปลดปล่อยกลุ่มไขมัน VLDL มากขึ้น จะมีระดับไตรกลีเซอไรด์ขึ้นสูงปานกลาง ซึ่งถ้ามีระดับขึ้นสูงมากหรือมีระดับคอเลสเตอรอลขึ้นสูงด้วยแสดงว่าอาจมีความผิดปกติของพันธุกรรมอื่น ๆ ข้างต้นร่วมอยู่ด้วย
2. โรคอ้วน จะทำให้เซลล์ไขมันมีปริมาณมากขึ้นและปลดปล่อยกรดไขมันออกมามาก
ไขมันเหล่านี้ก็จะถูกส่งไปที่ตับ เซลล์ตับก็จะผลิต VLDI ออกมามากขึ้น นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคอ้วนจะเกิด
ภาวะดื้อต่ออินซูลินและมีระดับอินซูลินขึ้นสูง ซึ่งทำให้มีผลคล้ายกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ซึ่งการลด
น้ำหนักจะช่วยลดระดับไขมันดังกล่าวได้
3. ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ จะมีระดับไขมัน LDL ในเลือดขึ้นสูง ในทางตรงกันข้าม ผู้ ป้
ไทรอยต์เป็นพิษ (ระดับไทรอยด์ฮอร์โมนสูง) จะมีระดับไขมัน LDL ต่ำ
4. โรคตับ โรคตับอักเสบไม่ว่าจะเกิดจากยา แอลกอฮอล์ หรือการติดเชื้อ จะทำให้ตับผลิตไขมันและ
ปลดปล่อยกลุ่มไขมัน VLDL มากขึ้น ผู้ป่วยจะมีระดับไตรกลีเซอไรด์ขึ้นสูงเล็ก น้อยถึงปานกลาง แต่ถ้า
เกิดตับอักเสบรุนแรงหรือมีตับวายจะทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์และคอ เลสเทอรอลลดลง เพราะเซลล์
ตับผลิตไขมันไม่ได้ ผู้ป่วยที่มีภาวะตา ตัว เหลือง (โรคดีข่าน) จากน้ำดีคั่งจะมีระตับคอเลสเทอรอลสูง
เนื่องจากปกติคอเลสเทอรอลจะหลั่งลงสู่น้ำดีในรูปของกรดน้ำดี เมื่อเกิดการคั่งของน้ำดี คอเลสเลสเทอรอ
ลจึงถูกดูดกลับเข้าสู่กระแสเลือด
5. โรคไต ผู้ป่วยโรคไตชนิดที่เรียกว่า Nephrotic syndrome จะมีทั้งระดับไตรกลีเชอไรด์และคอเลสเทอรอลขึ้นสูงหรืออาจมีเพียงชนิดใดชนิดหนึ่งขึ้นสูงก็ได้ ส่วนผู้ป่วยที่เป็นไตวายจะมีระดับไตรกลีเซอไรด์ขึ้น
สูงเล็กน้อย โรคที่มีฮอร์โมนชื่อ Glucocorticoid สูงเรียกว่าโรค Cushing’s หรือ Cushing syndrome ฮอร์โมนนี้ทำให้ VI.DL ถูกผลิตมากขึ้น ผู้ป่วยจึงมีระดับไตรกลีเชอไรด์ขึ้นสูง

อาการของโรคไขมันในเลือดสูง

ไขมันในเลือด-สูงเป็นภัยเงียบที่มักไม่แสดงอาการชัดเจน ผู้ป่วยอาจไม่รู้ตัวว่ามีภาวะนี้จนกระทั่งเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจขาดเลือด หลอดเลือดสมองตีบ หรือหลอดเลือดแดงแข็งตัว ซึ่งทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก หายใจไม่สะดวก เวียนศีรษะ หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้น การตรวจสุขภาพประจำปีและการตรวจระดับไขมันในเลือดจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและตรวจพบภาวะไขมันในเลือด-สูงตั้งแต่เนิ่น 

ผลข้างเคียงจากโรคไขมันในเลือดสูง

ภาวะที่มีระดับกลุ่มไขมัน LDL สูงถือเป็นหนึ่งในความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัว ใจ ซึ่งนำไปสู่โรคหัวใจขาดเลือด และอัมพฤกษ์/อัมพาตจากโรคหลอดเลือดสมอง จากการที่ไขมันไปทำให้หลอดเลือดแดงใหญ่แข็งตัวซึ่งเรียกว่า Atherosclerosis (โรคหลอดเลือดแดงแข็ง) ความเสี่ยงเหล่านั้นได้แก่
1. ผู้ชายที่อายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป ผู้หญิงที่อายตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป
2. มีประวัติพ่อหรือพี่น้องผู้ชายเป็นโรคหัวใจขาดเลือด (กล้ามเนื้อหัวใจตาย) ที่อายุน้อยกว่า 55 ปี หรือมีแม่ หรือญาติผู้หญิงเป็นโรคหัวใจขาดเลือดที่อายุน้อยกว่า 65 ปี
3. เป็นโรคความดันโลหิตสูง มีความดันโลหิต > 140/90 มิลลิเมตร-ปรอท
4. สูบบุหรี่
5. มีไขมัน HDL ต่ำกว่า 40 mg/dI แต่ถ้า HDL มากกว่าหรือเท่ากับ 60 mg/dl ให้ลบความเสี่ยงข้างต้น (ถ้ามี) ออก 1 ข้อ เพราะกลุ่มไขมันHDL ถือว่าเป็นกลุ่มไขมันที่ดีที่ช่วยยับยังการเกิดหลอดเลือดแดงใหญ่แข็งตัว ดังนั้นการที่จะบอกว่าบุคคลใดมีระดับไขมันในเลือด-สูงที่จะต้องรักษา ก็ต้องดูว่ามีความเสี่ยงใดบ้าง ถ้าไม่มีความเสี่ยงเลยหรือมีความเสี่ยงเพียง 1 ข้อ ค่าระดับกลุ่มไขมัน LDL ที่มากกว่า 160 mg/al ถือว่ามีไขมันในเลือด-สูง แต่ถ้ามีปัจจัยเสี่ยงตั้งแต่ 2 ข้อขึ้นไปค่าระดับกลุ่มไขมัน LDL ที่มากกว่า 130 mg/dl จะถือว่ามีไขมันในเลือด-สูง แต่ถ้าเป็นโรคเบาหวานหรือเคยเกิดโรคหัวใจขาดเลือดมาแล้ว ค่าระดับกลุ่มไขมัน LDL ที่มากกว่า 100 mg/dl ก็ถือว่าสูงแล้ว

การป้องกันและการรักษาไขมันในเลือดสูง

1. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันทรานส์ และเพิ่มการบริโภคผัก ผลไม้ และธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ซึ่งมีไฟเบอร์สูงช่วยลดระดับไขมันในเลือดได้ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและเกลือสูง เพราะจะไปเพิ่มระดับไขมันในเลือดและความดันโลหิตได้ การเลือกบริโภคโปรตีนจากแหล่งที่ดี เช่น ปลา ถั่ว และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ก็ช่วยลดระดับไขมันไม่ดีในเลือดได้
2. การออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 30-50 นาที 3-5 ครั้ง/สัปดาห์ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพหัวใจและลดระดับไขมันในเลือด การออกกำลังกายที่เหมาะสมได้แก่ การเดินเร็ว วิ่งเบา ๆ การปั่นจักรยาน หรือการว่ายน้ำ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดไขมันในเลือดแล้วยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย การลดน้ำหนักหากมีน้ำหนักเกิน หรือควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยง
3. ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะการสูบบุหรี่จะเพิ่มระดับไขมันไม่ดี (LDL) และลดระดับไขมันดี (HDL) ในเลือด นอกจากนี้การสูบบุหรี่ยังทำให้หลอดเลือดแข็งตัว เสี่ยงความดันโลหิตสูง และเพิ่มโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปยังสามารถเพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไขมันพอกตับ

อิมมูตี้ (สมุนไพรพลูคาว) ตราคุณสัมฤทธิ์

400.00 บาท740.00 บาท
Shopping Cart

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top