Aphthous Ulcers ร้อนใน
ร้อน-ในหรือแผลร้อน-ใน (Aphthous Ulcers) เป็นแผลขนาดเล็กและตื้นที่เกิดขึ้นบริเวณเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปากหรือเหงือก มักมีสีเหลืองหรือสีขาวล้อมรอบด้วยสีแดง ทำให้เกิดอาการเจ็บปวด และส่งผลให้รับประทานอาหารหรือพูดคุยได้ลำบาก นอกจากนี้ แผลร้อน-ในสามารถเกิดขึ้นบริเวณด้านในของริมฝีปาก กระพุ้งแก้ม หรือลิ้นได้ด้วย
แผลร้อน-ในประเภทต่าง ๆ
– แผลร้อน-ในทั่วไป สามารถเกิดขึ้นได้ 3 – 4 ครั้งต่อปี และหายได้เองภายใน 2 สัปดาห์
– แผลร้อน-ในแบบซับซ้อน พบได้น้อยกว่า อาจพบในรายที่เป็นแผลร้อน-ในมาก่อน หรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ
แผลร้อน-ในแตกต่างจากเริมที่ปาก ซึ่งเป็นมักเป็นตุ่มน้ำใสเกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex ประเภทที่ 1 หรือ 2 โดยจะขึ้นที่ปากและอวัยวะเพศ
สาเหตุของแผลร้อน-ใน
ปัจจุบันทางการแพทย์ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แน่ชัดได้ แต่อาจเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ที่เข้าไปกระตุ้นจนก่อให้เกิดแผลร้อน-ในขึ้น ดังนี้
– พันธุกรรม
– เชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย
– การขาดสารอาหาร เช่น วิตามินบี 12 กรดโฟลิก
– การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน โดยเฉพาะผู้หญิงช่วงก่อนมีประจำเดือนหรือระหว่างมีประจำเดือน
– ความเครียดหรือความกังวล
– อาหารบางชนิดที่มีอาการแพ้
– จัดฟันหรือมีอุปกรณ์ทันตกรรมในช่องปาก
– โรคประจำตัวเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน เช่น โรคโครห์น โรคเบเช็ท เอชไอวี
อาการของแผลร้อน-ใน
เมื่อเป็นร้อน-ในจะสังเกตได้ว่ามีแผลสีเหลืองหรือสีขาว ลักษณะเป็นรูปทรงกลมหรือรี มีอาการบวมแดงและรู้สึกเจ็บเกิดขึ้นในช่องปาก เช่น บริเวณกระพุ้งแก้ม ลิ้น หรือด้านในของริมฝีปาก ในบางรายอาจมีอาการอื่น ๆ เกิดขึ้นร่วมด้วย เช่น ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ เป็นไข้หรือรู้สึกไม่สบาย
หากมีอาการดังต่อไปนี้เกิดขึ้น ควรไปพบแพทย์
– แผลร้อน-ในมีขนาดใหญ่กว่าปกติ
– แผลร้อน-ในไม่หายภายในเวลา 2 สัปดาห์
– แผลร้อน-ในลุกลามไปยังบริเวณริมฝีปาก
– มีแผลร้อน-ในใหม่เกิดขึ้นก่อนที่แผลเดิมจะหาย หรือพบว่าเป็นบ่อย
– มีแผลร้อน-ในร่วมกับมีอาการไข้สูง
– รับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มได้ลำบากมาก
อันตรายของแผลร้อน-ใน
แผลร้อน-ในที่เกิดขึ้นในช่องปากจะสามารถหายเองได้ แต่ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นระยะเริ่มแรกของมะเร็งในช่องปากได้เช่นกัน เนื่องจากมีอาการที่ควรเฝ้าระวัง หากแผลร้อน-ในมีลักษณะดังนี้ ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษา
– แผลเกิดขึ้นจำนวนมากกว่า 1 จุด และเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะที่แผลเก่ายังไม่หาย
– แผลมีขนาดใหญ่เกินกว่าปกติหรือลุกลามไปบริเวณอื่น
– มีแผลร้อน-ในเกิดขึ้นต่อเนื่องและอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์
การรักษาแผลร้อน-ใน
แม้ว่าอาการเจ็บปวดจากแผลร้อน-ในมักดีขึ้นภายใน 2 – 3 วัน และแผลสามารถหายได้เอง ภายใน 2 สัปดาห์ แม้ว่าจะไม่ได้รับรักษาใด ๆ ผู้ป่วยสามารถใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการได้ เช่น ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดที่ใช้ภายนอก ยาชาเฉพาะที่ เช่น Benzocaine ชนิดที่ใช้ภายในปาก น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของคลอเฮกซิดีน (chlorhexidine) เดกซาเมทาโซน (dexamethasone) และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (hydrogen peroxide)
การป้องกันร้อน-ใน
แผลร้อน-ในมักเกิดจากสาเหตุที่ยากต่อการควบคุม เช่น อาการเจ็บป่วยหรือกรรมพันธุ์ ดังนั้นการป้องกันไม่ให้เกิดร้อน-ในอาจทำได้ยาก แต่ก็มีวิธีที่อาจช่วยลดความถี่ในการเกิดร้อน-ในได้ ดังนี้
– แปรงฟันหลังจากการรับประทานอาหารทุกครั้ง และใช้ไหมขัดฟันวันละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้มีเศษอาหารตกค้างในช่องปากซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดแผลร้อน-ในได้
– หลีกเลี่ยงการใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของสารเอสแอลเอส (SLS: Sodium Lauryl Sulfate)
– หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่อาจทำให้เกิดความระคายเคืองในปาก เช่น ของทอด อาหารรสจัด และผลไม้ที่มีกรดมากอย่างสับปะรดหรือส้ม
– รับประทานอาหารหลัก 5 หมู่ให้ครบถ้วนโดยเฉพาะผักและผลไม้ เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุอย่างเพียงพอ
– หลีกเลี่ยงการเคี้ยวหมากฝรั่ง
– ผู้ที่จัดฟันควรปรึกษาทันตแพทย์แพทย์หากเครื่องมือทันตกรรมที่อยู่ในช่องปากมีความคมจนทำให้เกิดบาดแผลในช่องปากบ่อยครั้ง