De quervain’s “เดอกาแวง” โรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ
หลาย ๆ ท่านอาจจะชล่าใจเวลาปวดที่บริเวณข้อมือหรือด้านบนหัวแม่มือ คิดว่าอาการที่เกิดขึ้นนี้คงไม่ส่งผลอะไรมากกับร่างกายของเรา แต่รู้หรือไม่ว่าหากปล่อยไว้ไม่เข้ารับการรักษาที่เหมาะสมอาจส่งผลให้เกิดโรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบได้ หรือที่เรียกทางการแพทย์ว่า De Quervain’s Tenosynovitis เป็นภาวะอักเสบเรื้อรังของเส้นเอ็นและปลอกหุ้มเส้นเอ็นบริเวณโคนนิ้วโป้ง ซึ่งเกิดจากการเสียดสีของเอ็นบริเวณนิ้วโป้ง เอ็นกล้ามเนื้อเหยียดนิ้วโป้ง (Extensor pollicis brevis) เอ็นกล้ามเนื้อกางนิ้วโป้ง(Abductor pollicis longus) และปลอกหุ้มเอ็นข้อมือ(Extensor retinaculum) ที่มากเกินไป จนเกิดการอักเสบและหนาตัวขึ้นของเส้นเอ็นและปลอกหุ้มเอ็น ทำให้ไม่สามารถงอ หรือ เหยียดนิ้วได้
3 ตำแหน่งที่พบบ่อย ของโรคปลอกเอ็นอักเสบบริเวณข้อมือ
1.เอ็นหัวแม่มือ เอ็นหัวแม่มือนี้จะทอดผ่านตัวข้อมือและถูกใช้งานมากที่สุด เป็นปริมาณร้อยละ 50 ถึง 60 ของมือข้างนั้นๆ และต้องยอมรับว่าสมาร์ทโฟนนั้น ถูกดีไซน์มาให้ใช้กับหัวแม่มือเป็นหลัก ส่งผลให้เกิดอาการเอ็นหัวแม่มืออักเสบได้บ่อยที่สุด โดยการอักเสบจะเป็นบริเวณโคนหัวแม่มือหรือเป็นบริเวณข้อมือก็ได้
2.เอ็นหลังข้อมือ เกิดจากการที่กระดกข้อมือไปทางด้านหลังเป็นระยะเวลานานโดยมักจะพบกับมือขวา หรือมือข้างที่ถนัด ที่ต้องกระดกเพื่อใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตนั่นเอง
3.เอ็นหน้าข้อมือ ซึ่งเป็นเอ็นที่ใช้สำหรับการงอข้อมือหรือนิ้วมือ การอักเสบนี้ มักจะพบที่บริเวณมือซ้าย หรือมือข้างที่ไม่ถนัด เนื่องจากว่าต้องถือโทรศัพท์ในท่าเกร็งข้อมือและงอนิ้วมือเป็นระยะเวลานานครับ
สาเหตุของโรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ
– การใช้งานข้อมือซ้ำๆ จากการทำกิจกรรมที่ต้องขยับข้อมือหรือนิ้วหัวแม่มือบ่อย เช่น พิมพ์งาน เล่นโทรศัพท์ ใช้เครื่องมือ หรือยกของหนัก
– การบาดเจ็บ โดยการได้รับแรงกระแทกหรือบาดเจ็บที่ข้อมือหรือเอ็น
– การเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน สามารถพบในสตรีตั้งครรภ์หรือหลังคลอด เนื่องจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงและการใช้งานข้อมือขณะดูแลลูก
– เกิดขึ้นได้จากโรคประจำตัว เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์หรือโรคเกาต์
ปัจจัยเสี่ยงของโรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ
– การใช้งานนิ้วโป้งและช้อมือที่มากเกินไป
– การตั้งครรภ์
– การดูแลทารกและให้นมบุตร
– เป็นโรคช้ออักเสบรูมาตอยด์
– เพศ โดยผู้หญิงอาจมีโอกาสเกิดโรคได้มากกว่าผู้ชาย
– อายุ พบได้บ่อยในวัย 40-50 ปี
อาการของโรคเปลือกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ
1.ขยับข้อมือ นิ้วมือ ลำบาก
2.ปวดเมื่อยขยับข้อมือหรือใช้มือในการหยิบจับสิ่งของ
3.บวม แดง ร้อน บริเวณโคนนิ้วหัวแม่มือ
4.อาจมีอาการปวดร้าวลงไปปลายนิ้ว หรือขึ้นมาถึงข้อศอก
5.อาจมีอาการชาที่นิ้วหัวแม่มือและโคนนิ้วหัวแม่มือ
6.อาจคลำเจอก้อนบริเวณข้อมือฝั่งนิ้วหัวแม่มือ
7.ปวดเมื่อกดบริเวณใต้รอยต่อข้อมือ
วิธีรักษาโรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ
– แช่มือในน้ำอุ่น ประมาณ 15-30 นาที วันละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น (ยกเว้นกรณีเป็นใหม่ ๆ มีอาการอักเสบ บวม แดง ร้อนมาก ควรประคบเย็น 5-10 นาที วันละ 3-4 ครั้ง ในช่วง 1-2 วันแรก จนอาการอักเสบคงที่ หรือลดลง จึงเปลี่ยนเป็นประคบอุ่น)
– การทำกายภาพบำบัด โดยการใช้เครื่องมือลดปวดชนิดต่างๆ เช่น อัลตราซาวนด์ เลเซอร์ รวมกับการออกกำลังกายตามคำแนะนำของแพทย์ และนักกายภาพบำบัด
– พักการใช้งานมือ
– รับประทานยาแก้อักเสบ (หากมีข้อห้าม ได้แก่ มีประวัติแผลในทางเดินอาหาร โรคหัวใจและหลอดเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน)
– การฉีดยาสเตียรอยด์
– การผ่าตัด
ท่าบริหารเพื่อป้องกันโรคปลอกเอ็นข้อมืออักเสบ
– แตะปลายนิ้วหัวแม่มือกับปลายนิ้วชี้ ค้างไว้ 5 วินาที จากนั้นให้ขยับปลายนิ้วหัวแม่มือมาแตะที่ปลายนิ้วก้อย ค้างไว้ 5 วินาที แล้วทำซ้ำสลับไปมาจนครบ 10 ครั้ง(Opposition stretch)
– งอข้อมือลงให้มากที่สุด ค้างไว้ 5 วินาที แล้วเปลี่ยนมากระดกข้อมือขึ้นให้มากที่สุด ค้างไว้อีก 5 แล้วทำซ้ำสลับไปมาจนครบ 10 ครั้ง (Wrist stretch)
– หงายฝ่ามือขึ้น กำมือ แล้วค่อยๆ กระดกข้อมือขึ้น ค้างไว้ 5 วินาที จากนั้นให้ค่อยๆ ดัดข้อมือลงไปตำแหน่งเดิม โดยทำซ้ำจนครบ 10 ครั้ง (Wrist flexion)
– คว่ำมือลง กำมือ แล้วค่อยๆ กระกดข้อมือขึ้น ค้างไว้ 5 วินาที จากนั้นค่อยๆ กดข้อมือลง ค้างไว้อีก 5 วินาที ทำซ้ำสลับไปมาจนครบ 10 ครั้ง (Wrist extension)
– ใช้วัตถุเป็นตัวช่วย เช่น ลูกบอลเล็กๆ โดยบีบวัตถุให้แน่นที่สุด ค้างไว้ 5 วินาที แล้วคลายออก ทำซ้ำสลับไปมาจนครบ 10 ครั้ง (Grip strengthening)
อาการแบบไหนถึงต้องเข้ารับการผ่าตัด
หากทำการรักษาเบื้องต้นด้วยตัวเองและรักษาแบบอนุรักษ์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางมือแล้วแต่อาการไม่ดีขึ้น ส่งผลให้การใช้ชีวิตประจำวันหรือการทำงานยากลำบาก ศัลยแพทย์ทางมืออาจพิจารณาเพื่อให้ผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดซึ่งวิธีผ่าตัดจะเป็นการผ่าตัดเล็กโดยจะทำการตัดขยายปลอกเอ็นเพื่อลดการเสียดสีและทำให้เส้นเอ็นเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
วิธีป้องกัน
– ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานหลีกเลี่ยงการใช้ข้อมือหนัก ๆ หรือใช้ในท่าเดิม ซ้ำ ๆ
– ปรับเปลี่ยนท่าทางในการทำงาน เช่น พนักงานออฟฟิศที่ต้องใช้มือในการพิมพ์งานควรปรับเปลี่ยนท่าให้เหมาะสม และอาจใช้ที่รองข้อมือ รวมถึงแป้นพิมพ์ตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomic keyboard) เพื่อลดการเกร็งของข้อมือ
– หลีกเลี่ยงการยกของหรือหิ้วของหนัก หากมีความจำเป็นต้องมีระยะการหยุดพักเพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บในภายหลัง




