เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis)

Endometriosis อีก 1 โรคที่ต้องใส่ใจ

ภาวะนี้เกิดจากการที่เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตในตำแหน่งที่ผิดปกตินอกโพรงมดลูก เช่น ผนังหรือกล้ามเนื้อมดลูก หรือบางครั้งในช่องท้อง ซึ่งสามารถกระจายไปยังอวัยวะต่างๆ ในอุ้งเชิงกรานได้ เช่น เยื่อบุช่องท้อง รังไข่ ผนังลำไส้ และผนังกระเพาะปัสสาวะ บางครั้งอาจแพร่ไปยังอวัยวะที่อยู่ห่างออกไป เช่น กระบังลม ปอด และเยื่อหุ้มปอด
เยื่อบุที่ผิดปกติเหล่านี้ทำให้เกิดปฏิกิริยาการอักเสบที่ขึ้นอยู่กับฮอร์โมนเอสโตรเจน เมื่อไปเจริญเติบโตในตำแหน่งที่ผิดปกติ เยื่อบุนี้ยังคงทำหน้าที่เหมือนเดิม คือ สร้างประจำเดือน ซึ่งทำให้มีเลือดสีแดงคล้ำหรือสีดำข้นคล้ายช็อกโกแลตขังอยู่ในบริเวณต่างๆ ของร่างกาย

ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยง

ภาวะไม่มีบุตร มีประวัติได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นเวลานาน (ประจำเดือนครั้งแรกตอนอายุน้อย หรือหมดประจำเดือนช้ากว่าปกติ) มีรอบเดือนสั้น (น้อยกว่า 21 วัน) หรือมีปริมาณประจำเดือนมากกว่าปกติ นอกจากนี้ การอุดกั้นทางเดินของประจำเดือน และการได้รับสาร DES (Diethylstilbestrol) ระหว่างตั้งครรภ์ รวมถึง BMI ต่ำ หรือการรับประทานอาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเป็นประจำ ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ

ปัจจัยที่ลดความเสี่ยง

การคลอดบุตรหลายครั้ง การให้นมบุตรเป็นระยะเวลานาน หรือการมีประจำเดือนครั้งแรกหลังอายุ 14 ปี รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีโอเมกา 3 มากพอ เชื้อชาติ เช่น black Hispanic อาจมีความเสี่ยงน้อยกว่า

สาเหตุ

ทฤษฎีการเกิดภาวะนี้มีหลายแนวคิด ส่วนใหญ่เชื่อว่าเกิดจากการที่ประจำเดือนไหลย้อนกลับเข้าสู่ท่อนำไข่และฝังตัวตามอวัยวะต่างๆ ในช่องท้อง เช่น บริเวณอุ้งเชิงกราน อย่างไรก็ตาม การไหลย้อนนี้ไม่ได้ทำให้เกิดภาวะในผู้หญิงทุกคน เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสามารถกำจัดเซลล์เหล่านี้ได้ ในบางกรณีที่ระบบภูมิคุ้มกันไม่สมบูรณ์ จะทำให้เสี่ยงมากขึ้น

อาการที่แสดง

ผู้ป่วยมักมีอาการปวดบริเวณท้องน้อย โดยเฉพาะในช่วงประจำเดือนที่ปวดรุนแรงขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป ลักษณะการปวดเป็นแบบตื้อๆ หรือปวดบีบ อาการปวดเกิดจากการเพิ่มสารที่ทำให้เกิดการอักเสบ และเพิ่มกระแสประสาทความเจ็บปวด อาการอื่นๆ เช่น ปวดในอุ้งเชิงกรานขณะมีเพศสัมพันธ์ ปวดท้องน้อยเรื้อรัง หรือภาวะมีบุตรยากที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบและการเกิดพังผืดในอุ้งเชิงกราน นอกจากนี้ บางรายอาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยระหว่างรอบเดือน หรือมีอาการท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน

การรักษา

1. การเฝ้าสังเกต: ใช้สำหรับกรณีที่ก้อนมีขนาดน้อยกว่า 5 เซนติเมตร และไม่มีอาการใดๆ โดยทำการนัดตรวจร่างกายและ Ultrasound เพื่อเฝ้าดูขนาดก้อน
2. การผ่าตัด

ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์

ภาวะนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร การตั้งครรภ์นอกมดลูก รกเกาะต่ำ ตกเลือดหลังคลอด หรือคลอดก่อนกำหนด

ภาวะนี้กลายเป็นมะเร็งได้หรือไม่

มีการศึกษาพบว่าอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งรังไข่ชนิดเยื่อบุผิวได้บ้าง แต่ความเสี่ยงค่อนข้างต่ำในผู้ป่วยบางกลุ่ม จึงไม่จำเป็นต้องตรวจคัดกรองอย่างต่อเนื่องในทุกกรณี

ผลิตภัณฑ์แนะนำ “อาหารเสริม สามสิบ คุณสัมฤทธิ์” สำหรับสตรี

Shopping Cart

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top