Organs in Quabrants ปวดท้องข้างขวา บ่งบอกอะไรได้บ้าง
อาการปวดท้องเป็นอาการที่พบได้บ่อยบริเวณช่องท้อง สาเหตุหลักมักเกิดจากอวัยวะในช่องท้อง ซึ่งช่องท้องสามารถแบ่งออกเป็น 4 ส่วน โดยใช้เส้นสมมติแนวตั้งและเส้นแนวนอนลากตัดผ่านสะดือ แบ่งเป็น 4 ส่วน คือ ส่วนเหนือสะดือด้านขวา (Right Upper Quadrant) เรียกช่องท้องขวาบน ส่วนเหนือสะดือด้านซ้าย (Left Upper Quadrant) เรียกช่องท้องด้านซ้ายบน ส่วนล่างสะดือด้านขวา (Right Lower Quadrant) เรียก ช่องท้องด้านขวาล่าง และ ส่วนล่างสะดือด้านซ้าย (Left Lower Quadrant) เรียกช่องท้องด้านซ้ายล่าง ซึ่งอาการปวดท้องแต่ละตำแหน่งมักสัมพันธ์กับอวัยวะในช่องท้องที่บริเวณนั้น ๆ หาก ปวดท้องข้างขวา ช่องท้องด้านขวาบนประกอบด้วย ตับ ถุงน้ำดี ท่อน้ำดี ตับอ่อน ไต หลอดเลือดแดงใหญ่ ช่องท้องด้านบนซ้าย คือ กระเพาะอาหาร ไต ม้าม ช่องท้องส่วนล่าง ลำไส้ใหญ่ และช่องท้องด้านล่างขวาและล่างซ้าย ประกอบไปด้วย ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก รังไข่ (ผู้หญิง) มดลูก (ผู้หญิง) กระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมาก (ผู้ชาย) เป็นต้น

การปวดท้องบริเวณด้านขวา(Organs in Quabrants)สาเหตุ มักเกิดจากอวัยวะที่อยู่บริเวณด้านขวา ซึ่งนอกจากจะมีอาการปวดท้อง มักมีอาการอื่นร่วมด้วย โดยปกติอาการปวดท้องด้านขวา มักสัมพันธ์กับหลายโรค โดยมีโรคที่สำคัญที่ต้องเข้ารับการรักษาโดยแพทย์ โดยพิจารณาอาการอย่างอื่น ลักษณะการปวด และตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
อาการปวดท้องข้างขวา มีความเสี่ยงจะเป็นโรคใดบ้าง
1. โรคตับอ่อนอักเสบ เกิดจากตับอ่อนทำงานผิดปกติ จนอักเสบ มักมีสาเหตุจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ทำให้ปวดท้องข้างขวาตรงด้านบนอย่างรุนแรงเฉียบพลัน ภาวะตับอ่อนอักเสบนอกจากจะทำให้มีอาการปวดท้องแล้ว ก็อาจมีอาการอื่น ๆ ด้วย เช่น อาการปวดท้องที่ลุกลามไปยังบริเวณหลัง หัวใจเต้นถี่ มีไข้ คลื่นไส้ และอาเจียน ซึ่งควรได้รับการตรวจที่เหมาะสมหากพบอาการที่เข้าข่าย โดยเฉพาะในกรณีที่อาการปวดท้องรุนแรงจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติ
2. โรคนิ่วในถุงน้ำดี เกิดจากการกินอาหารไขมันสูงเป็นประจำ ทำให้เกิดผลึกก้อนนิ่วในถุงน้ำดี นิ่วในถุงน้ำดีเป็นโรคที่ส่งผลให้ผู้ที่เป็นมักพบอาการปวดท้องข้างขวาส่วนบน และนอกจากอาการนี้แล้ว ผู้ป่วยนิ่วในถุงน้ำดียังอาจพบอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหลังบริเวณระหว่างสะบัก และปวดบริเวณไหล่ หากรู้สึกว่าอาการเริ่มส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเมื่อพบอาการดังต่อไปนี้ร่วมด้วย ได้แก่ ปวดท้องรุนแรง มีไข้สูง หนาวสั่น และผิวหนังหรือดวงตามีสีออกเหลือง
3. โรคกรวยไตอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินปัสสาวะ ทำให้เกิดการอักเสบแพร่กระจายไปที่ไตและกรวยไต มักทำให้ปวดท้องข้างขวาช่วงบั้นเอว พร้อมทั้งมีอาการปัสสาวะขุ่น ไข้สูง หนาวสั่น ร่วมด้วย
4. โรคไส้ติ่งอักเสบ เกิดจากมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดตันในไส้ติ่ง ทำให้ไส้ติ่งติดเชื้อและอักเสบ มักทำให้ปวดท้องที่บริเวณชายโครง หรือรอบ ๆ สะดือ และมีอาการปวดเสียดมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทนไม่ไหว กดแล้วเจ็บมาก โดยอาการของภาวะนี้มักเริ่มจากอาการปวดท้องส่วนบน หรือบริเวณใกล้ ๆ สะดือก่อน จากนั้นอาการปวดจะเริ่มเปลี่ยนไปเป็นบริเวณท้องข้างขวาส่วนล่าง ซึ่งจะยิ่งรุนแรงขึ้นขณะขยับตัวและหายใจ รวมถึงมักเกิดอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ท้องบวม คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียหรือท้องผูก เบื่ออาหาร มีไข้ เป็นต้น ภาวะไส้ติ่งอักเสบเป็นภาวะอันตรายที่ควรได้รับการดูแลจากแพทย์ทันที เนื่องจากหากไส้ติ่งแตก ผู้ป่วยอาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงหรือเสียชีวิตได้
5. โรคปีกมดลูกอักเสบ จะทำให้ปวดท้องบริเวณข้างที่เป็น ถ้าปีกมดลูกอักเสบด้านขวาอักเสบ ก็จะปวดท้องข้างขวา พร้อมมีเลือดออกที่ช่องคลอด ตกขาวมากผิดปกติ ปัสสาวะแสบขัด