Bell palsy อัมพาตใบหน้าครึ่งซีก
โรคอัมพาตใบหน้าครึ่งซีก (Bell’s palsy) คือภาวะที่มีการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อใบหน้า 1 ข้าง ทำให้ใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก มีอาการปากเบี้ยวและหลับตาได้ไม่สนิท เกิดจากการอักเสบของเส้นประสาทที่ไปควบคุมกล้ามเนื้อใบหน้า สาเหตุของโรคนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสบางชนิด โรคนี้สามารถเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยผู้ป่วยเบาหวานและหญิงตั้งครรภ์พบมีความเสี่ยงในการเกิดโรคที่สูงขึ้น
เกิดจากการอักเสบของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ที่มาเลี้ยงบริเวณใบหน้า โดยส่วนใหญ่แล้วโรคนี้จะเป็นตามหลังการติดเชื้อไวรัส (มักเป็นไวรัสกลุ่มเริมและงูสวัด) ส่วนน้อยเกิดจากโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น เอชไอวี โรคปลอกหุ้มปลายประสาทอักเสบ หรือ Multiple sclerosis
สาเหตุของอัมพาตครึ่งซีก
สมองและไขสันหลังทำหน้าที่ส่งสัญญาณประสาทเพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย หากสมองซีกใดซีกหนึ่งหรือไขสันหลังได้รับความเสียหาย จะทำให้การส่งสัญญาณสั่งการให้กล้ามเนื้อเคลื่อนไหวทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวได้เลย จึงเกิดภาวะอัมพาตครึ่งซีก ซึ่งความเสียหายของสมองและไขสันหลังเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
1. โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) โรคหลอดเลือดสมองเป็นภาวะที่หลอดเลือดสมองเกิดการอุดตัน ตีบแคบ หรือฉีกขาด เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือขยับไม่ได้เลย ซึ่งความรุนแรงของอาการจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ส่วนในผู้ใหญ่ โรคหลอดเลือดสมองอาจเกิดจากการมีไขมันเกาะที่ผนังหลอดเลือด เนื่องจากความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคอ้วน และพฤติกรรม เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก การไม่ออกกำลังกาย
2. การกระทบกระเทือนที่สมองและไขสันหลัง การได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะจากการหกล้มหัวฟาดพื้น การถูกตีหรือกระแทกที่ศีรษะหรือกระดูกสันหลังบริเวณต้นคออย่างรุนแรงจากการเล่นกีฬา การถูกทำร้ายร่างกาย หรือรถชน อาจทำให้มีเลือดออกในสมอง สมองซีกใดซีกหนึ่งหรือไขสันหลังได้รับความกระทบกระเทือน จนเกิดภาวะอัมพาตครึ่งซีกได้
3. เนื้องอกในสมอง เนื้องอกในสมอง โดยเฉพาะการเกิดเนื้องอกบริเวณสมองที่ควบคุมการเคลื่อนไหว อาจทำให้เกิดอัมพาตครึ่งซีกได้ ยิ่งเนื้องอกมีขนาดใหญ่ขึ้น จะยิ่งกดทับและทำให้เกิดความเสียหายต่อสมอง และทำให้อาการอัมพาตครึ่งซีกรุนแรงขึ้น
4. การติดเชื้อที่สมอง การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่สมองซีกใดซีกหนึ่ง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) และไข้สมองอักเสบ (Encephalitis) อาจทำให้เกิดอัมพาตครึ่งซีกได้
สาเหตุอื่น ๆ
– ความเสียหายของสมองอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น ภาวะสมองพิการ ซึ่งมักเกิดกับทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis) เป็นโรคทางระบบประสาท ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของสมองและไขสันหลัง
– โรคสไปนา ไบฟิดา (Spina Bifida) ซึ่งเป็นความพิการของไขสันหลังของทารกแต่กำเนิด
– ความผิดปกติของพันธุกรรมในเด็ก จากการกลายพันธุ์ของยีน ATP1A3 ซึ่งทำให้เกิดอาการอัมพาตครึ่งซีกในลักษณะเป็น ๆ หาย ๆ
อาการของโรคอัมพาตใบหน้าครึ่งซีก
อาการและความรุนแรงของอาการอัมพาตครึ่งซีกจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน เช่น
– กล้ามเนื้อของร่างกายด้านใดด้านหนึ่งเกิดอาการอ่อนแรง หดเกร็ง ติดแข็ง และไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวเองได้ แขนอ่อนแรง ยกแขนไม่ขึ้น
– เดินลำบาก ทรงตัวไม่ได้ หยิบจับหรือถือของได้ยาก
– รับรู้ความรู้สึกบริเวณร่างกายด้านที่มีอาการได้น้อย หรือไม่ได้เลย
– พูดลำบาก พูดไม่ชัด กลืนอาหารลำบาก หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว
กระสับกระส่าย สับสน มีปัญหาด้านความคิด ความจำ และไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้
– มีปัญหาด้านการมองเห็น
– มีอาการชัก
– อารมณ์แปรปรวน วิตกกังวล ซึมเศร้า และแยกตัวจากสังคม
– ในเด็กอาจมีพัฒนาการล่าช้า เช่น เริ่มเดินได้ช้า เรียนรู้ช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน เดินเขย่งปลายเท้าข้างหนึ่ง กำมือข้างใดข้างหนึ่งไว้ หรือชอบใช้มือข้างใดข้างหนึ่งมากกว่า
การรักษาอัมพาตครึ่งซีก
อัมพาตครึ่งซีกเป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการไปตลอดชีวิต และสาเหตุส่วนใหญ่ของอัมพาตครึ่งซีกมักทำให้เกิดความเสียหายถาวรต่อระบบประสาท อย่างไรก็ตาม อาการของโรคจะไม่แย่ลงเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้น หากได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมจะช่วยให้อาการดีขึ้น และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น ซึ่งวิธีการรักษาจะแตกต่างกันตามสาเหตุและความรุนแรงของอาการ โดยอาจใช้วิธีรักษาหลายวิธีร่วมกัน เช่น
– กายภาพบำบัด กายภาพบำบัดเป็นการรักษาอัมพาตครึ่งซีกด้วยการออกกำลังกายและยืดเส้น เพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ช่วยปรับท่าทางของผู้ป่วย ฟื้นฟูความสามารถในการทรงตัวและการเคลื่อนไหว และช่วยยืดกล้ามเนื้อของผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกชนิดหดเกร็งได้ ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติได้มากที่สุด
– Modified Constraint-Induced Movement Therapy เป็นวิธีการรักษาด้วยการจำกัดการเคลื่อนไหวของร่างกายด้านที่แข็งแรง เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อและฝึกการเคลื่อนไหวของร่างกายด้านที่อ่อนแรงให้ออกแรงทำงานทดแทนด้านที่เป็นปกติ
– การใช้อุปกรณ์ช่วยในการเคลื่อนไหว แพทย์อาจให้ผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกใช้อุปกรณ์ที่ช่วยในการเคลื่อนไหว เช่น อุปกรณ์ช่วยพยุง (Brace) ไม้เท้า อุปกรณ์ช่วยเดิน 4 ขา (Walker) วีลแชร์ เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงและเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นคงขึ้น
– การใช้ยา สาเหตุหลักของการเกิดอัมพาตครึ่งซีกคือโรคหลอดเลือดสมอง แพทย์อาจสั่งจ่ายยารักษาโรคหลอดเลือดสมองตามประเภทของโรคหลอดเลือดสมองที่ผู้ป่วยแต่ละคนเป็น เช่น
– โรคหลอดเลือดสมองชนิดสมองขาดเลือด (Ischemic Stroke) แพทย์อาจให้ยาละลายลิ่มเลือด เช่น Tissue Plasminogen Activator เพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันที่หลอดเลือดสมอง
– โรคหลอดเลือดสมองชนิดเลือดออกในสมอง (Hemorrhagic Stroke) แพทย์อาจให้ยาลดความดันโลหิต และยาที่ช่วยยับยั้งการมีเลือดออกในสมอง
นอกจากนี้ แพทย์อาจจ่ายยาที่ช่วยรักษาภาวะอื่น ๆ ที่เป็นสาเหตุของอัมพาตครึ่งซีก เช่น ยาฆ่าเชื้อไวรัส และยาปฏิชีวนะ กรณีที่มีโรคจากการติดเชื้อ
– การบำบัดอื่น ๆ ที่อาจใช้รักษาผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีก เช่น การบำบัดการพูด (Speech Therapy) สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับการพูดไม่ชัด และการกลืนอาหาร และกิจกรรมบำบัด (Occupational Therapy) คือการฟื้นฟูทักษะการทำงานของกล้ามเนื้อ เพื่อให้ทำกิจวัตรประจำวัน การเข้าสังคม และการทำงานได้ดีขึ้น