Estrogen and Bone Mass ฮอร์โมนเอสโตรเจนกับมวลกระดูกของผู้หญิง

Estrogen and Bone Mass ฮอร์โมนเอสโตรเจนกับมวลกระดูกของผู้หญิง

Estrogen and Bone Mass ฮอร์โมนเอสโตรเจนกับมวลกระดูกของผู้หญิง

Estrogen and Bone Mass ฮอร์โมนเอสโตรเจนกับมวลกระดูกของผู้หญิง วัยหมดประจำเดือน หรือที่เรียกว่าวัยทอง (Menopause) เป็นช่วงเวลาที่รังไข่หยุดการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ซึ่งส่งผลกระทบต่อร่างกายหลายด้าน ไม่เพียงแต่อาการเฉียบพลัน เช่น ร้อนวูบวาบ หรือ ช่องคลอดแห้ง แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญในผู้หญิงวัยนี้

ผลของฮอร์โมนเอสโตรเจนต่อกระดูก

ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีบทบาทสำคัญในการช่วยรักษาความหนาแน่นและมวลของกระดูก โดย:
• ช่วย ลดการสลายตัวของกระดูก (Bone resorption)
• กระตุ้นการสร้างกระดูกใหม่ (Bone formation)
เมื่อระดับเอสโตรเจนลดลงในวัยหมดประจำเดือน จะส่งผลให้มวลกระดูกลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้กระดูกเปราะบาง แตกหักง่าย และเป็นสาเหตุสำคัญของโรคกระดูกพรุน

โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis)

โรคกระดูกพรุน คือ ภาวะที่กระดูกมีความหนาแน่นลดลง โครงสร้างภายในกระดูกเสื่อม และทำให้กระดูกเปราะบาง แตกหักได้ง่าย

อาการ
โรคนี้มักไม่มีอาการจนกว่าจะเกิดกระดูกหัก ตำแหน่งที่พบบ่อยคือ:
• กระดูกสะโพก
• กระดูกสันหลัง
• กระดูกข้อมือ

การเปลี่ยนแปลงของมวลกระดูกตามวัย
อายุ 30 ปี: มวลกระดูกจะสูงสุดในช่วงนี้
หลังอายุ 30 ปี: มวลกระดูกเริ่มลดลง โดยเฉพาะในผู้หญิงหลังหมดประจำเดือน

จากข้อมูลในประเทศไทย ผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป พบว่า ร้อยละ 50 มีภาวะกระดูกพรุน

ปัจจัยเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน

1. ปัจจัยที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (Nonmodifiable Risk Factors):
• อายุที่เพิ่มขึ้น
• เชื้อชาติ (เอเชียและผิวขาวมีความเสี่ยงสูงกว่า)
• รูปร่างเล็กและน้ำหนักน้อย
• หมดประจำเดือนก่อนวัยอันควร
• ประวัติครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน

2. ปัจจัยที่ปรับเปลี่ยนได้ (Modifiable Risk Factors):
• การรับแคลเซียมและวิตามินดีไม่เพียงพอ
• การสูบบุหรี่และดื่มสุรา
• ขาดการออกกำลังกาย

3. โรคและภาวะที่เกี่ยวข้อง (Associated Medical Conditions):
• โรคเรื้อรัง เช่น โรคไตเรื้อรัง, โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
• การใช้ยาบางชนิด เช่น คอร์ติโคสเตียรอยด์

คำแนะนำสำหรับการป้องกันโรคกระดูกพรุนในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน

1. การรับประทานแคลเซียมและวิตามินดี
แคลเซียม:
• แนะนำให้ผู้หญิงที่อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป รับประทานแคลเซียม 1,200 มก./วัน
• การรับแคลเซียมจากอาหารเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ควรเสริมด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
• หลีกเลี่ยงการรับแคลเซียมมากเกินไป (>1,500 มก./วัน) เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงนิ่วในไตและโรคหลอดเลือด
วิตามินดี:
• แนะนำให้รับวิตามินดี 800-1,000 IU/วัน สำหรับผู้ที่อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
• ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการขาดวิตามินดี เช่น ผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง หรือผู้ที่มีการสัมผัสแสงแดดน้อย ควรตรวจระดับวิตามินดีในเลือด

2. การออกกำลังกาย
• การออกกำลังกายแบบ Weight-bearing exercise: เช่น การเดิน การวิ่ง หรือการเต้น
• การออกกำลังกายแบบ Muscle-strengthening exercise: เช่น การยกน้ำหนักหรือโยคะ
• ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก ลดความเสี่ยงการลื่นล้ม และเพิ่มสมดุลของร่างกาย

3. การรับประทานโปรตีน
• ควรรับประทานโปรตีน 1-1.2 กรัม/กก./วัน
• โปรตีนที่ดีควรมาจากแหล่งธรรมชาติ เช่น เนื้อสัตว์ ถั่ว และธัญพืช

4. การป้องกันการลื่นล้ม
• ตรวจสอบและปรับปรุงสภาพแวดล้อมในบ้าน เช่น ติดตั้งราวจับในห้องน้ำ
• ลดการใช้ยาที่มีผลต่อการทรงตัว เช่น ยากล่อมประสาท

5. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
• เลิกสูบบุหรี่
• ลดการดื่มแอลกอฮอล์และกาแฟ

การตรวจคัดกรองและรักษาโรคกระดูกพรุน

การตรวจความหนาแน่นของกระดูก (Bone Mineral Density: BMD)
• ใช้เครื่อง DXA scan เพื่อประเมินความหนาแน่นของกระดูก
• ควรตรวจในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่มีประวัติกระดูกหัก

การรักษา
• ยาเสริมสร้างความหนาแน่นของกระดูก เช่น Bisphosphonates, Denosumab
• การใช้ฮอร์โมนทดแทนสำหรับผู้ที่มีอาการขาดเอสโตรเจนรุนแรง

สรุป

การลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนในวัยหมดประจำเดือนส่งผลกระทบอย่างมากต่อมวลกระดูกและความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน การป้องกันและดูแลสุขภาพกระดูกอย่างเหมาะสม เช่น การรับประทานแคลเซียมและวิตามินดี การออกกำลังกาย และการปรับพฤติกรรม สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคและส่งเสริมคุณภาพชีวิตในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลิตภัณฑ์แนะนำที่ช่วยเสริมเฮอร์โมนเอสโตรเจน

ยาแคปซูลผสมสมุนไพรรากสามสิบ ตรา สมุนไพรคุณสัมฤทธิ์ สูตร 2

400.00 บาท740.00 บาท

ยาแคปซูลผสมสมุนไพรรากสามสิบ ยาแคปซูลผสมสมุนไพรรากสามสิบ

Shopping Cart

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top