Folic

Folic โฟลิกกับการตั้งครรภ์

Folic โฟลิกกับการตั้งครรภ์

กรดโฟลิก Folic Acid หรือวิตามินบี 9 เป็นสารอาหารที่สำคัญในกระบวนการสร้างสารพันธุกรรมดีเอ็นเอ ซึ่งสำคัญต่อการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ การปฏิสนธิและการตั้งครรภ์ โดยศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention, CDC) แนะนำให้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ทุกคน ได้รับกรดโฟลิกเสริมวันละ 0.4 – 0.8 มิลลิกรัม เพื่อป้องกันภาวะพิการทางระบบประสาทจากหลอดประสาทไม่ปิดในเด็ก โดยปกติแล้วการพัฒนาของทารกในครรภ์ตอนอายุครรภ์ประมาณ 2 สัปดาห์ จะมีการสร้างหลอดประสาทซึ่งจะพัฒนาไปเป็นสมองและไขสันหลังของทารกในอนาคต

ทำไมคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ต้องทานกรดโฟลิกมากกว่าปกติ?
ในขณะที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องการกรดโฟลิกสำหรับลูกน้อย แต่ร่างกายกลับดูดซึมจากอาหารได้น้อยกว่าปกติ! เพื่อให้ร่างกายคุณแม่และทารก…ได้รับกรดโฟลิกที่เพียงพอ คุณแม่จึงต้องมีการเสริมกรดโฟลิกให้เพิ่มขึ้นกว่าปกติ เพื่อความสมบูรณ์ต่อการสร้างตัวอ่อนในครรภ์

ถ้าขาดกรดโฟลิกจะส่งผลต่อทารกอย่างไร

ผลกระทบที่เกิดจากการขาดกรดโฟลิคคือ ทารกจะเสี่ยงต่อความพิการ โดยในรายที่เป็นมากจะเกิดความพิการทางสมอง ระบบประสาทส่วนกลาง  และกะโหลกศีรษะไม่ปิด  หากปล่อยให้ตั้งครรภ์จนคลอดทารก จะมีอายุอยู่ได้ไม่เกิน   24   ชั่วโมง ในส่วนของประสาทไขสันหลังเองก็เสี่ยงเกิดความพิการได้เหมือนกันการสร้างเม็ดเลือดแดงขนาดใหญ่กว่าปกติ หรือโตไม่เต็มที่ รวมไปถึง..ภาวะสารโฮโมซีสเตอีนสูงกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดโรคหัวใจ ไขมันอุดตันในหลอดเลือดสมอง โคเลสเตอรอลสูง ความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน

โฟลิกธรรมชาติเจอได้จากที่ไหนบ้าง

โฟลิกเป็นสารอาหารที่มีมากในผักผลไม้สด เช่น ไข่แดง ตับ ผักใบเขียว (เช่น คะน้า ตำลึง ผักบุ้ง) แครอท แคนตาลูป ฟักทอง ถั่วชนิดต่าง ๆ รวมทั้งเมล็ดธัญพืช (เช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลือง) เอพริคอต อะโวคาโด เป็นต้น เรามาทำความรู้จักกับ 3 Superfood แหล่งกรดโฟลิกกินแล้วดีต่อร่าง
ผักใบเขียว เป็นอาหารชั้นดีที่อุดมไปด้วยโฟเลท ในแต่ละมื้อลองเพิ่มผักโขม กะหล่ำปลี หรือผักกาดเขียวลงไป เพื่อเพิ่มกรดโฟลิกให้กับร่างกาย เพราะเพียงแค่ทานผักเหล่านี้ 1 จานใหญ่ต่อวันก็จะทำให้ได้รับกรดโฟลิกเพียงพอแล้ว
บรอกโคลี กินบรอกโคลี 1 ถ้วย ทำให้เราได้รับกรดโฟลิกมากถึง 26% ของจำนวนที่ร่างกายต้องการกรดโฟลิกต่อวันเลยทีเดียว ยิ่งทานแบบลวกหรือทานกับน้ำสลัดแบบสดๆ ก็จะยิ่งได้คุณค่าสารอาหารที่ดีกว่าการนำไปทอดหรือผัด
ผลไม้รสเปรี้ยว ความจริงแล้วผลไม้ส่วนใหญ่ต่างอุดมไปด้วยกรดโฟลิกทั้งนั้น เพียงแต่ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวจะมีกรดโฟลิกเยอะมาก โดยเฉพาะส้มที่หลายคนคุ้นเคยกันอย่างดี เพราะส้ม 1 ลูกมีกรดโฟลิก 40 – 50 ไมโครกรัม นอกจากนี้พวกมะละกอ องุ่น กล้วย แคนตาลูป หรือแม้แต่สตรอว์เบอร์รีก็มีกรดโฟลิกสูงเช่นกัน
แต่โฟลิกจะถูกทำลายได้ง่าย เมื่อถูกความร้อนเป็นเวลานานในการปรุงอาหาร ถ้ากินอาหารหรือปรุงอาหารไม่ถูกต้อง อาจทำให้ร่างกายได้รับโฟลิกไม่เพียงพอ โดยในประเทศไทยมีการศึกษาพบว่า สตรีไทยอายุระหว่าง 15 – 45 ปี ร้อยละ 65.5 มีระดับโฟลิกในเลือดต่ำกว่าปริมาณที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่การป้องกันความพิการในบุตรเท่านั้น จากการศึกษาในระยะหลังยังพบว่า การรับประทานโฟลิกมีผลดีต่อการมีบุตร อาจช่วยให้มีบุตรง่ายขึ้น ลดภาวะไข่ไม่ตก ภาวะแท้ง รวมถึงพบว่า ช่วยเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ในผู้มาทำเด็กหลอดแก้วด้วย

แล้วเสริมโฟลิกแค่ไหนจึงจะพอดี

รับประทานโฟลิกวันละ 1 เม็ด (1-5 มิลลิกรัม) ตั้งแต่ 3 เดือนก่อนตั้งครรภ์ต่อเนื่องจนถึง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ หลังจากนั้นรับประทานวันละ 0.4 มิลลิกรัม (ในประเทศไทยโฟลิกชนิดเม็ด จะมีเม็ดละ 5 มิลลิกรัม และในยาบำรุงครรภ์ทุกชนิดมักจะมีโฟลิกผสมอยู่แล้วอย่างน้อย 0.4 มิลลิกรัม)

ทานช่วงไหนได้ผลดีที่สุด

เพราะในช่วงสัปดาห์ที่ 3-4 หลังการปฏิสนธิ หลอดประสาทจะปิดอย่างสมบูรณ์ กว่าคุณแม่จะทราบว่าตั้งครรภ์ก็อาจสายเกินไป เพื่อผลลัพธ์ที่ดี! ควรมีการเสริมกรดโฟลิกตั้งแต่วางแผนมีบุตร หรือก่อนตั้งครรภ์ 1-3 เดือน และทานต่อไปอีก 3 เดือน หลังเริ่มตั้งครรภ์จะดีที่สุด

สามสิบ (แบบกระปุก) ตรา คุณสัมฤทธิ์ สูตรใหม่

Price range: 350.00 บาท through 660.00 บาท

Shopping Cart

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top