การดูแลสุขภาพจุดซ่อนเร้น

ความไม่สบายใจที่ทำให้คุณผู้หญิงรู้สึกอับอายและไม่กล้าปรึกษาใคร ซึ่งนั่นอาจเป็นการตัดสินใจที่ผิด เพราะหากไม่รีบตรวจหาสาเหตุให้เจอและไม่รักษาให้ถูกวิธี อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาได้

ทำไมถึงมีกลิ่น?

กลิ่นที่จุดซ่อนเร้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่มากระตุ้นและส่งผลให้เกิดกลิ่น โดยเราสามารถจำแนกสาเหตุของการเกิดกลิ่นได้เป็น 6 กลุ่มใหญ่ ดังนี้

1. การติดเชื้อแบคทีเรีย

การติดเชื้อแบคทีเรียเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย เกิดจากปริมาณแบคทีเรียในช่องคลอดที่ไม่สมดุล และหากมีการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิดอาจมีอาการคันและมีตกขาวควบคู่กัน ซึ่งสามารถเกิดได้ทั้งในคนที่เคยและไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน

2. การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์

การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์จะมีลักษณะอาการคล้ายกับการติดเชื้อแบคทีเรีย คือมีอาการตกขาวและอาการคัน แต่อาจมีลักษณะอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีเลือดออกขณะหรือหลังมีเพศสัมพันธ์ ในบางรายอาจมีลักษณะผิดปกติที่บริเวณอวัยวะเพศ ซึ่งแนะนำให้รีบพบแพทย์เป็นการด่วน

3. การดูแลทำความสะอาดที่มากเกินไป

การดูแลทำความสะอาดที่มากเกินไปมักเกิดในช่วงที่มีประจำเดือน ทำให้บริเวณอวัยวะเพศมีความอับชื้นสูง ส่งผลให้มีกลิ่น สามารถป้องกันได้โดยเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 2-4 ชั่วโมง โดยควรล้างมือทุกครั้งทั้งก่อนและหลังเปลี่ยนผ้าอนามัย การดูแลทำความสะอาดควรใช้วิธีอาบน้ำแบบเปิดน้ำไหลผ่านแทนการแช่น้ำ และไม่ควรสวนล้างช่องคลอด

4. การกินอาหารที่มีกลิ่นแรงหรือรสจัด

เมื่อทานอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น ปลาร้า หรือของหมักดอง ร่างกายจะพยายามปรับสมดุลเคมี ทำให้มีการขับกลิ่นออกมา และยังทำให้เกิดความอับชื้นมากกว่าปกติ ซึ่งทำให้มีกลิ่นแรงขึ้น และนำไปสู่อาการตกขาวได้

5. การใส่กางเกงรัดแน่นเกินไป

กางเกงที่รัดแน่น ไม่มีช่องว่างให้อากาศระบาย จะทำให้เกิดความชื้นสะสมอยู่ภายใน ส่งผลให้แบคทีเรียเติบโตได้ดี และเกิดกลิ่นที่จุดซ่อนเร้นได้

6. ฮอร์โมนไม่สมดุล

ฮอร์โมนไม่สมดุลมักเกิดในหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งอาจทำให้มีกลิ่นที่จุดซ่อนเร้นเพิ่มขึ้นเนื่องจากฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งครรภ์

วิธีป้องกันและดูแล

การป้องกันและดูแลกลิ่นที่จุดซ่อนเร้นสามารถทำได้โดยการปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:

• รักษาความสะอาด: ล้างทำความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อนๆ หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่มีสารเคมีแรง
• เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ: ในช่วงมีประจำเดือน ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 2-4 ชั่วโมง
• เลือกใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี: หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงที่รัดแน่นเกินไป
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรงหรือรสจัด
• ปรึกษาแพทย์: หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจและรักษาอย่างถูกวิธี

การดูแลสุขภาพจุดซ่อนเร้นเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม การปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่อาจตามมาได้