ความเชื่อที่ว่า ประจำเดือนคือเลือดเสีย !

ประจำเดือนไม่ใช่เลือดเสีย และสีของประจำเดือนสามารถเปลี่ยนแปลงได้เลือดและเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดออกมาทุกรอบเดือนของผู้หญิง ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละคนส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นทุก 21-35 วัน แต่ละรอบจะอยู่นาน 3-7 วัน การที่เราต้องมีการสร้างเนื้อเยื่อโพรงมดลูกใหม่เสมอก็เพื่อให้พร้อมต่อการฝังตัวของตัวอ่อน จึงทำให้เกิดวงโคจรของประจำเดือนแบบนี้ขึ้นมา ซึ่งก็จะขึ้นๆ ลงๆ ตามระดับของฮอร์โมนเพศด้วย หลายคนจะเข้าใจว่าการที่มีประจำเดือน คือ การมีเลือดเสียและเมื่อตอนไหนประจำเดือนออกมาน้อย หรือว่านานๆ มีที ก็จะเกิดความกังวลว่าเราจะมีเลือดเสียคั่งในร่างกายหรือปล่าว ซึ่งตรงนี้แพทย์ย้ำมาว่าเป็นเรื่องที่“ไม่จริง” ประจำเดือนไม่ใช่เลือดเสีย ประจำเดือน คือ เยื่อบุโพรงมดลูกที่ไม่ได้ใช้งานของรอบที่แล้วเลยลอกหลุดออกมาพร้อมเลือดเท่านั้นเอง สำหรับบทความของสีประจำเดือนบอกโรคที่เผยแพร่ออกมาในโลกอินเตอร์เน็ตนั้น ต้องบอกว่าเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เพราะโดยปกติสีประจำเดือนก็จะเปลี่ยนไปไม่เหมือนกันในแต่ละครั้งแต่ละเดือนอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับความเก่าใหม่ของเลือดมากกว่า ถ้าหากเลือดออกมาในช่วงต้นๆ ที่จะออกมาเยอะเลือดก็จะเป็นสีแดงสด หากเข้าสู่ช่วงท้ายของประจำเดือนสีก็จะเข้มขึ้น เพราะว่าการไหลของเลือดจะลดลง รวมถึงมีเลือดค้างอยู่ในเยื่อบุโพรงมดลูก เมื่อถึงช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อเลือดสัมผัสกับอากาศก็จะเปลี่ยนเป็นสีคล้ำขึ้นได้  เพราะฉะนั้นช่วงท้ายๆ ของประจำเดือนก็จะมีสีที่เข้มขึ้นได้เป็นเรื่องปกติเพราะฉะนั้นจึงสรุปได้ว่า สีของประจำเดือนขึ้นอยู่กับปริมาณเลือดและเยื่อบุที่หลุดลอกออกมามากกว่าที่จะไปสัมพันธ์กับโรคอะไรต่างๆ นานาเหล่านั้น

สิ่งที่เราควรสังเกตเกี่ยวกับประจำเดือน คือ

1.ปริมาณเลือดที่ออก ตามปกติเลือดที่ออกมาจะมีปริมาณไม่มากนัก แต่หากท่านใดพบว่าต้อง
เปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 2 ชม. อันนี้คือปริมาณเลือดออกมาเยอะจนเกินไปอาจมีความผิดปกติแนะนำ
ให้มาตรวจกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับนรีเวช
2.เลือดที่ออกมามีลักษณะเป็นก้อนเลือด เป็นลิ่มๆ สีแดงสด แดงเข้ม แดงคล้ำ อันนี้อาจเกิดความ
ผิดปกติเช่นกันแนะนำให้มาตรวจกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับนรีเวช
3.ความสม่ำเสมอของรอบเดือน ที่ต้องมาทุก 21-35 วัน ไม่มาเร็วกว่า 21 วัน
หรือมาช้ากว่า 35 วัน

สาเหตุของประจำเดือนที่ผิดปกติอาจเกิดจาก

1.ความเครียด ความวิตกกังวล
2.อาหาร การอดอาหาร น้ำหนักที่เพิ่มหรือลดลงเร็วเกินไป
3.การรับประทานยาคุมกำเนิด
4.การเจ็บป่วยทางนรีเว1ช เช่น เนื้องอกในมดลูก ติ่งเนื้อในโพรงมดลูก โรคถุงน้ำในรังไข่

เลือดออกผิดปกติแบบไหนที่ต้องระวังมากเป็นพิเศษ

1.เลือดออกมากหลังมีเพศสัมพันธ์ เสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูก
2.ประจำเดือนขาดเกิน 3 เดือน(ไม่ท้อง) เสี่ยงเป็นไข่ไม่ตกเรื้อรัง ไทรอยด์
3.เลือดออกกระปริดกระปรอย ไม่เป็นรอบ เสี่ยงเป็น มะเร็งปากมดลูก

ข้อมูลจาก   อ. พญ.แสงศุลี ธรรมไกรสร   ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว  
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี   มหาวิทยาลัยมหิดล

บทความที่เกี่ยวข้อง

Endometriosis อีก 1 โรคที่ต้องใส่ใจ

Shopping Cart

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top