Eye

Eye 3 โรคสุดฮิตกับอาการคันตา

Eye 3 โรคสุดฮิตกับอาการคันตา

ตา หรือ ดวงตา (Eye) เป็นอวัยวะมีหน้าที่รับรู้การมองเห็น เป็นอวัยวะคู่ ซ้ายขวา อยู่บนใบหน้า ส่วนที่มีหน้าที่ในการรับรู้การมองเห็นของตา เรียกว่า ลูกตา (Eye ball) จะอยู่ในกระดูกกะโหลกส่วนที่เรียกว่า เบ้าตา (Orbit) ซึ่งอาการคันบริเวณตา เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และพบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยอาจมีอาการเพียงชั่วคราวหรือเรื้อรัง ขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ แต่ในกรณีที่รุนแรงมาก ๆ ผู้ป่วยอาจต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา ซึ่งการรักษาที่ตรงจุดจะช่วยให้อาการคันตาดีขึ้นและหายขาดได้

สาเหตุของอาการคันตา อาการคันตาเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

1. อาการแพ้ ส่งผลให้มีอาการคันบริเวณดวงตาหรือเปลือกตาได้ เนื่องจากบริเวณนี้ค่อนข้างบอบบางและง่ายต่อการแพ้ ซึ่งสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการแพ้มีได้หลายประการ อาทิ
– ฝุ่น มลพิษ
– สบู่ น้ำยาทำความสะอาด หรือสารเคมี
– สารที่เป็นกรดหรือด่าง อย่างน้ำมะนาว หรือพริกป่น
– เครื่องสำอางที่ใช้บริเวณดวงตา อย่างอายแชโดว์ หรืออายไลน์เนอร์
– ครีมกันแดด
– น้ำยาย้อมสีผม หรือยาทาเล็บ
ทั้งนี้ อาการคันตาจากการแพ้อาจเกิดขึ้นเพียงบริเวณดวงตา โดยไม่ลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ แต่ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ด้วย เพราะสารบางชนิดอาจส่งผลต่อบริเวณอื่น ๆ ได้เช่นกัน

2. ภาวะสายตาล้า การใช้สายตาเป็นเวลานานอาจก่อให้เกิดอาการแสบร้อนที่ดวงตาหรือมีอาการคันตาได้ เนื่องจากสายตาไม่ได้พักผ่อน นอกจากนี้ การอยู่ในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศเป็นเวลานานก็อาจทำให้ดวงตาล้าและตาแห้ง จนเกิดอาการคันตาได้เช่นกัน โดยภาวะตาล้ามักแสดงอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตามัว, ปวดศีรษะ, ปวดคอ หลัง และไหล่, ตาแพ้แสง, ไม่มีสมาธิ, มีปัญหาในการลืมตา เป็นต้น

3. อาการตาแห้ง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการคันตาได้ บางครั้งอาจรู้สึกเหมือนมีเศษผงในดวงตาหรือมีอาการแสบร้อนที่ตา นอกจากนี้ การสวมคอนแทคเลนส์อาจส่งผลให้มีอาการรุนแรงขึ้น เช่น
– มีเมือกเหนียวรอบดวงตาหรือมีอาการตาแฉะ
– ตาแพ้แสง
– ตาแดง มีน้ำตาไหล
– มีปัญหาสายตาในเวลากลางคืน ทำให้ขับขี่ยานพาหนะไม่สะดวก
– ตามัว หรือมีอาการตาอ่อนล้า

โรคที่ทำให้คันตาพบได้บ่อย

– คันตาจากโรคภูมิแพ้ขึ้นตา เกิดจากมีปัจจัย หรือสิ่งแวดล้อมภายนอก เช่น เกสรดอกไม้ ฝุ่น ขนสัตว์  กระตุ้นให้ร่างกายเกิดปฎิกิริยาการแพ้ไปยังส่วนต่าง ๆ ซึ่งหากเกิดการแพ้ที่ดวงตา อาจทำให้มีภาวะเยื่อบุตาอักเสบ และคันตาขึ้นมาได้ นอกจากอาการคันตาแล้ว โรคภูมิแพ้ขึ้นตา ยังมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ดังนี้ เยื่อบุตาแดง, เปลือกตาบวม, น้ำตาไหล, ขี้ตาเหนียว เป็นต้น
– คันตา จากโรคตาแห้ง เป็นภาวะที่มีปริมาณน้ำตามาหล่อเลี้ยงบริเวณผิวตาไม่เพียงพอ ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การใส่คอนแทคเลนส์ ต่อมน้ำตาผลิตน้ำตาน้อยลง หรือจ้องจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟนมากเกินไป หากคันตาจากโรคตาแห้ง มักมีอาการร่วม ดังนี้ ระคายเคืองตา, แสบตา, ตาฝืด ๆ รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในดวงตา, ตาขาวแดง, แพ้แสง, ตาพร่ามัวเป็นพัก ๆ
– คันตา จากโรคตากุ้งยิง เกิดจากเปลือกตาติดเชื้อแบคทีเรีย จนอักเสบเป็นตุ่มหนองที่เปลือกตา หรือเกิดจากไขมันที่เปลือกตาอุดตัน ติดเชื้อ ทั้งนี้ โรคตากุ้งยิง ไม่ได้ทำให้คันตาเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย อาทิ เปลือกตาบวมมาก, พบตุ่มหนองคล้ายสิว หรือฝีที่เปลือกตา, รู้สึกเจ็บตรงเปลือกตาที่บวม, น้ำตาไหล

การป้องกันอาการคันตา

วิธีป้องกันอาการคันตาที่ดีที่สุด คือการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจส่งผลให้มีอาการคันตาตามมา หากสาเหตุเกิดจากอาการแพ้หรือโรคภูมิแพ้ ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นอาการแพ้ ด้วยวิธีต่อไปนี้

– หลีกเลี่ยงการเปิดหน้าต่างโดยไม่จำเป็น เพื่อป้องกันฝุ่นหรือมลพิษอื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอาการคันตา
– ใช้อุปกรณ์ช่วยป้องกันไรฝุ่นและเชื่อรา เช่น ผ้าปูที่ป้องกันไรฝุ่น อีกทั้งควรทำความสะอาดเครื่องนอนให้สะอาดอยู่เสมอ ควรซักด้วยน้ำร้อน เพราะจะช่วยลดไรฝุ่นและเชื้อราได้เป็นอย่างดี
– ล้างมือทำความสะอาดทุกครั้งก่อนสัมผัสกับคอนแทคเลนส์หรือดวงตา เพื่อป้องกันไม่ให้มีเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกเข้าสู่ดวงตาจนเกิดอาการอักเสบ
– ล้างทำความสะอาดเครื่องสำอางบนใบหน้าให้สะอาดทุกวันก่อนเข้านอน โดยเฉพาะบริเวณดวงตา เพื่อป้องกันการอุดตันของรูขุมขนที่เปลือกตา อันเป็นสาเหตุของเปลือกตาอักเสบ
– ล้างทำความสะอาดตัวกรองในเครื่องปรับอากาศเป็นประจำ เพื่อป้องกันฝุ่นและเชื้อโรคที่กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ได้
– หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ในห้องที่ระบายอากาศได้ไม่ดี
– หากต้องเผชิญมลพิษหรือทำงานในสถานที่ที่เสี่ยงต่อการได้รับสารเคมี ควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันดวงตา เช่น แว่นกันสารเคมี หน้ากากอนามัย ถุงมือ เป็นต้น
– อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายทุกครั้งหลังกลับถึงบ้าน เพื่อป้องกันเชื้อโรคและมลพิษที่ตกค้างตามร่างกาย
– หลีกเลี่ยงการเกาบริเวณที่รู้สึกคัน เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายหลั่งสารฮีสตามีนที่กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้มากขึ้น
– ใช้น้ำเกลือชำระล้างสิ่งสกปรกหรือสารก่อภูมิแพ้ออกจากดวงตา โดยควรใช้น้ำเกลือที่ผ่านการทำให้ปลอดเชื้อด้วยกรรมวิธีที่ได้มาตรฐานอย่างการใช้ความร้อนสูง (Sterilization) และไม่มีส่วนผสมของสารเติมแต่งหรือวัตถุกันเสีย เพื่อให้มั่นใจได้ว่า สะอาด ปลอดภัย และปราศจากผลข้างเคียง และการเลือกซื้อน้ำเกลือยังควรพิจารณาบรรจุภัณฑ์แบบใส เพื่อให้ผู้ใช้สังเกตเห็นสิ่งปนเปื้อนหลังการเปิดใช้งานได้ง่ายขึ้น

บทความที่น่าสนใจ

Diabetic retinopathy เบาหวานขึ้นตา

อิมมูตี้ (สมุนไพรพลูคาว) ตราคุณสัมฤทธิ์

Price range: 400.00 บาท through 740.00 บาท

Shopping Cart

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top