Amblyopia

Amblyopia โรคตาขี้เกียจ ภาวะโรคตาในวัยเด็กที่พบได้บ่อย

Amblyopiaรคตาขี้เกียจ

ตาขี้เกียจ (Amblyopia หรือ Lazy Eye) คือ ภาวะที่ดวงตาข้างใดข้างหนึ่ง หรือ ทั้งสองข้าง มีพัฒนาการของการมองเห็นที่ผิดปกติ ส่งผลให้สมองไม่สามารถรับรู้และประมวลผลภาพจากดวงตานั้นได้อย่างชัดเจน ทำให้การมองเห็นลดลง และเมื่อไม่ได้รับการแก้ไขจนเวลาผ่านไปสมองจะเริ่มปฏิเสธการใช้ตาข้างนั้นในการมองภาพหรือวัตถุต่าง  ๆ และจะสั่งการให้เราใช้เฉพาะดวงตาข้างที่เห็นชัดเจนกว่า เมื่อตาข้างที่มีสายตาผิดปกติมากไม่ถูกใช้งานก็จะเป็นโรคตาขี้เกียจในที่สุด  โรคตาขี้เกียจในผู้ใหญ่จะเป็นกรณีที่เป็นตั้งแต่เด็กและไม่ได้เข้ารับการรักษา

ตาขี้เกียจเกิดจากอะไร

หลังจากที่เราทราบแล้วตาขี้เกียจคืออะไร เรามาลองดูสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตาขี้เกียจกันบ้างดีกว่า

1. การมีค่าสายตาผิดปกติตั้งแต่เด็ก

เกิดจากการมีสายตาผิดปกติตั้งแต่เด็กและไม่ได้รับการแก้ไข หรือ มีค่าสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง ที่แตกต่างกันมากระหว่างสองข้าง ทำให้สมองเลือกใช้ภาพจากตาข้างที่ชัดกว่า และละเลยการใช้ตาข้างที่สายตาแย่กว่า จึงเกิดเป็นโรคตาขี้เกียจ และการมีสายตาผิดปกติขั้นรุนแรง เช่น สายตาสั้นมาก สายตายาวมาก หรือสายตาเอียงมาก ทำให้การมองเห็นของสายตาทั้งสองข้างไม่ชัดเจน จึงมีโอกาสเกิดเป็นภาวะตาขี้เกียจได้ทั้งสองข้างด้วย

2. ตาเหล่ ตาเข

เป็นภาวะความผิดปกติของดวงตา ที่ดวงตาทั้งสองข้างทำงานไม่ประสานกัน ไม่มองไปในทิศทางเดียวกัน อาจมีดวงตาข้างหนึ่งที่มองตรง และดวงตาอีกข้างเฉไปทิศทางอื่น อาจจะเฉขึ้นด้านบน เฉลงด้านล่าง เฉไปด้านหัวตา หรือเฉไปด้านหางตามากกว่าปกติ สามารถเป็นได้ตลอดเวลา หรือเป็นเพียงชั่วคราว อาจเกิดจากพันธุกรรม ความผิดปกติของกล้ามเนื้อกลอกลูกตา ความผิดปกติของประสาทส่วนกลาง เป็นต้น คนที่มีอาการตาเหล่ หรือตาเข มักจะใช้ตาข้างที่มองตรงเป็นส่วนใหญ่ และกดการทำงานของตาอีกข้าง จึงส่งผลให้การมองเห็นข้างนั้นพัฒนาได้ไม่เต็มที่จนเกิดเป็นโรคตาขี้เกียจ

3. โรคทางตาที่บดบังการมองเห็น

เกิดจากภาวะที่แสงไม่สามารถเข้าสู่ดวงตาได้ดี เช่น
– ต้อกระจกตั้งแต่กำเนิด (congenital cataract) สามารถพบได้ในทารกแรกเกิด โดยจะมีเลนส์ตาขุ่น ส่งผลให้การมองเห็นลดลง หรือพัฒนาการทางสายตาผิดปกติ
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis) ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ที่ทำให้หนังตาหย่อนลงมาปิดทับตาดำ จนทำให้การมองเห็นแย่ลง มองเห็นภาพได้ไม่ชัดเจน มีอาการภาพมัว ภาพเบลอ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่ภาวะตาขี้เกียจได้เช่นกัน

สังเกตอาการของโรคตาขี้เกียจ

สำหรับผู้ที่มีอาการเหล่านี้ อาจเป็นข้อบ่งชี้ว่า มีปัญหาเกี่ยวกับสายตา หรืออาจเป็นโรคตาขี้เกียจได้ ในกรณีของเด็กที่มีภาวะตาขี้เกียจควรได้รับการตรวจโดยจักษุแพทย์ทันที แม้ว่าเด็กจะไม่บ่นเกี่ยวกับปัญหาสายตา แต่ผู้ปกครองอาจสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติระหว่างทำกิจกรรมประจำวันได้ ตัวอย่างเช่น
– ชอบดูโทรทัศน์ในระยะใกล้
– มีการเพ่งมองมากกว่าปกติ 
– เดินชนวัตถุ สิ่งของหรือเกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ 
– มักมีอาการหรี่ตามอง หรือเอียงศีรษะเป็นประจำ
– มีอาการตาเหล่ ตาเข 
– หนังตาตก
– มีจุดขาวในตาดำ
– มองไม่ค่อยชัดในที่มื

อาการตาขี้เกียจแบบใดที่ควรไปพบแพทย์

ควรเข้าพบจักษุแพทย์เมื่อสังเกตเห็นว่า เริ่มมีภาวะตาเหล่ ตาเข หนังตาตกหรือมีอาการเห็นภาพซ้อน  มองเห็นไม่ชัด เอียงหัวเมื่อใช้สายตา เพื่อที่จะสามารถตรวจหาความผิดปกติและเข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ทั้งนี้ควรตรวจเช็กสายตาเป็นประจำทุกปี

การตรวจวินิจฉัยภาวะตาขี้เกียจ

ในเบื้องต้นแพทย์จะตรวจดูความผิดปกติรอบดวงตา เช่น ตรวจลักษณะของดวงตาว่ามีอาการตาเข ตาเหล่หรือไม่ ตรวจลักษณะของเปลือกตา รวมทั้งวัดค่าสายตาทั้งสองข้าง และสามารถทดสอบได้ด้วยการปิดตาทีละข้างเพื่อทดสอบการมองเห็นของทั้งสองข้าง เกี่ยวกับปฏิกิริยาต่อสิ่งของต่างๆ หากมีอาการที่บ่งบอกว่าข้างใดข้างหนึ่งมองเห็นไม่ชัดหรือมีการตอบสนองที่ไม่เป็นไปอย่างที่ควร ก็อาจเป็นอาการที่บ่งบอกถึงตาขี้เกียจ และในบางครั้งความผิดปกติอาจสังเกตได้ยากจากภายนอก แพทย์อาจตรวจสอบด้วยวิธีการอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น CT Scan เพื่อหาสาเหตุที่ทำเกิดโรคตาขี้เกียจ และทำการรักษาได้อย่างถูกต้อง

วิธีรักษาโรคตาขี้เกียจ

วิธีรักษาโรคตาขี้เกียจมีหลายวิธี ตามสาเหตุและความเหมาะสมกับระยะอาการ โดยวิธีการรักษามีด้วยกันทั้งหมด 4 วิธี ดังนี้

1. รักษาโดยการปิดตา 1 ข้าง

การปิดตาข้างที่เห็นชัดเป็นวิธีการรักษาพื้นฐานสำหรับโรคตาขี้เกียจ โดยเฉพาะในเด็กที่อายุยังไม่เกิน 8 ปี วิธีนี้จะช่วยบังคับให้สมองรับรู้และพัฒนาการมองเห็นจากตาข้างที่เป็นตาขี้เกียจ โดยระยะเวลาของการปิดตาอาจจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและการตอบสนองต่อการรักษาของแต่ละบุคคล

2. สวมใส่แว่นตา หรือคอนแทคเลนส์

การสวมเลนส์ปรับสายตาจะช่วยเพิ่มคุณภาพการมองเห็นให้กับสายตาที่ขี้เกียจได้ ซึ่งจะต้องใส่แว่นตา หรือคอนแทคเลนส์อย่างต่อเนื่อง โดยผู้ป่วยที่ใส่ทุกครั้งที่ตื่นนอนเป็นประจำ จะช่วยทำให้ดวงตาข้างที่มีปัญหาทำงานมากขึ้น และสามารถมองเห็นได้ใกล้เคียงกับปกติได้

3. ใช้ยาหยอดตา

แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของสารอะโทรปีนกับดวงตาข้างที่มีค่าสายตาที่ดี เพื่อให้เกิดอาการมัวชั่วคราว เมื่อลดการใช้งานของดวงตาข้างที่ดีแล้ว ก็จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้งานดวงตาข้างที่มีปัญหา ทำให้มีการทำงานมากขึ้น

4. รักษาด้วยการผ่าตัด

ตาขี้เกียจที่เกิดจากสาเหตุของโรคทางตาที่ทำให้การมองเห็นลดลงในหลาย ๆ โรค เช่น โรคต้อกระจก ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หรือหนังตาตก ต้องอาศัยการผ่าตัดเพื่อรักษาให้ดวงตากลับมามองเห็นได้เป็นปกติ
ผ่าตัดต้อกระจก ทำเพื่อลอกเลนส์ตาออก โดยใส่เลนส์แก้วตาเทียม ซึ่งจะเกิดเป็นเพียงแผลขนาดเล็กเท่านั้น
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง สามารถแก้ไขโดยการผ่าตัดดึงกล้ามเนื้อตาลีเวเตอร์ ซึ่งเป็นการผ่าตัดลงลึก เพื่อเพิ่มระดับความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อตา สามารถออกแรงยกเปลือกตาได้เต็มที่ หากทำร่วมกับการทำตาสองชั้นจะช่วยให้ดวงตาโต สดใส ไม่มีอาการตาปรือ หรือตาออกแรงได้ไม่เต็มที่ แก้ปัญหาเปลือกตาตกปิดทับตาดำได้อย่างตรงจุด
หนังตาตก จากหนังตาเกินหรือไขมันส่วนเกิน จนทำให้หนังตาตกทับตาสองชั้น หรือหากเป็นหนัก อาจถึงขั้นหนังตาตกทับตาดำ จึงมีผลต่อการมองเห็น สามารถแก้ไขด้วยการผ่าตัดทำตาสองชั้น โดยตกแต่งเนื้อส่วนเกินที่ตกทับชั้นตา เพื่อให้เปลือกตาที่ตกถูกยกขึ้น แก้ปัญหาหนังตาตกปิดทับตาดำได้เป็นอย่างดี
ตาเข ตาเหล่ สามารถแก้ไขได้โดยการผ่าตัดกล้ามเนื้อตาที่ใช้ในการกลอกตา ซึ่งเป็นการรักษาให้สามารถมองตรง และทำให้มองเห็นได้ดียิ่งขึ้น

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคตาขี้เกียจ

การเริ่มต้นในการรักษา ตาขี้เกียจ ตั้งแต่เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี เป็นต้นไป โดยการรักษาในช่วงอายุดังกล่าว จะเป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด เนื่องจากสมองยังปรับตัวได้ และถ้าหากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่เด็ก อาจสูญเสียการมองเห็นถาวรในตาข้างที่ได้รับผลกระทบ หากสงสัยว่าเด็กอาจมีภาวะตาขี้เกียจ ควรพาไปพบจักษุแพทย์โดยเร็ว เพื่อประเมิน และเริ่มการรักษา

อิมมูตี้ (สมุนไพรพลูคาว) ตราคุณสัมฤทธิ์

Price range: 350.00 บาท through 660.00 บาท
Shopping Cart

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top