Hyperthyroidism ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ

Hyperthyroidism ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ

Hyperthyroidism ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ

คือภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป ส่งผลให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานเร็วขึ้นผิดปกติ ผู้ป่วยมักมีน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้ตั้งใจ และมีอาการทางกายและจิตใจที่หลากหลาย เช่น หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกง่าย หงุดหงิด และฉุนเฉียว

อาการของโรคไทรอยด์เป็นพิษ

อาการที่พบบ่อยของผู้ที่มีภาวะไทรอยด์ที่เป็นพิษ ได้แก่:

1. ทางร่างกาย:
• ใจสั่น มือสั่น
• น้ำหนักลดลงแม้รับประทานอาหารปกติหรือมากขึ้น
• เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
• ขี้ร้อน เหงื่อออกมากกว่าปกติ
• ผมร่วง หรือผมบางลง
• ประจำเดือนมาผิดปกติ

2. ทางจิตใจ:
• หงุดหงิดง่าย ฉุนเฉียว
• สมาธิสั้น
• วิตกกังวล

3. ในผู้สูงอายุ:
• มักไม่พบอาการทางผิวหนังหรือทางกายเด่นชัด แต่มีอาการเซื่องซึมหรืออาการเกี่ยวกับหัวใจ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือหัวใจวาย

สาเหตุของโรคไทรอยด์เป็นพิษ

1. การรับประทานอาหารหรือยา:
• อาหารที่มีไอโอดีนสูง เช่น อาหารทะเลหรือเกลือเสริมไอโอดีน
• ยาที่มีส่วนประกอบของไอโอดีน เช่น ยาอะมิโอดาโรน (Amiodarone)

2. การอักเสบของต่อมไทรอยด์:
• เช่น ภาวะไทรอยด์อักเสบหลังคลอด

3. การเกิดโรคเกรฟส์ (Graves’ Disease):
• โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองที่กระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากเกินไป

4. การเกิดเนื้องอกที่ต่อมไทรอยด์:
• เช่น Multinodular goiter หรือ Adenoma

5. สาเหตุอื่น ๆ:
• การติดเชื้อ หรือความเสียหายที่เกิดจากการกระทบกระเทือน

ภาวะแทรกซ้อนของโรคไทรอยด์เป็นพิษ

หากไม่ได้รับการรักษา โรคไทรอยด์เป็นพิษอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น:
1. ปัญหาทางสายตา:
• ตาโปน ตาแห้ง ตาแดง หรือไวต่อแสง พบได้ในผู้ป่วยโรคเกรฟส์

2. ภาวะกระดูกเปราะบาง (Osteoporosis):
• การมีฮอร์โมนไทรอยด์สูงส่งผลต่อการดูดซึมแคลเซียม ทำให้กระดูกเปราะบาง

3. ปัญหาหัวใจ:
• หัวใจเต้นผิดปกติ เช่น Atrial fibrillation หรือภาวะหัวใจวาย

4. ภาวะไทรอยด์ต่ำ (Hypothyroidism):
• อาจเกิดจากการรักษาที่ทำให้ระดับฮอร์โมนลดต่ำกว่าปกติ

5. ภาวะไทรอยด์เป็นพิษขั้นวิกฤต (Thyroid Storm):
• ภาวะฉุกเฉินที่อาจเกิดจากการติดเชื้อหรือความเครียดรุนแรง

6. ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์:
• เช่น ภาวะครรภ์เป็นพิษ การแท้งบุตร คลอดก่อนกำหนด หรือทารกมีน้ำหนักแรกคลอดต่ำ

การวินิจฉัยโรคไทรอยด์เป็นพิษ

1. การตรวจเลือด:
• ตรวจระดับฮอร์โมนไทรอยด์ (T3, T4) และฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH)

2. การสแกนต่อมไทรอยด์:
• ใช้ตรวจหาลักษณะการทำงานผิดปกติของต่อมไทรอยด์

3. การอัลตราซาวด์:
• ใช้ตรวจหาก้อนเนื้อหรือความผิดปกติในต่อมไทรอยด์

การรักษาโรคไทรอยด์เป็นพิษ

1. การใช้ยา:
ยาไทรอยด์: เช่น Methimazole หรือ Propylthiouracil เพื่อลดการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์
ยาเบต้า-บล็อกเกอร์: เช่น Propranolol เพื่อลดอาการใจสั่น

2. การใช้สารไอโอดีนกัมมันตรังสี:
• ช่วยทำลายเนื้อเยื่อของต่อมไทรอยด์ที่ผลิตฮอร์โมนมากเกินไป

3. การผ่าตัดต่อมไทรอยด์:
• สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา หรือมีเนื้องอกที่ต้องกำจัด

4. การจัดการภาวะแทรกซ้อน:
• เช่น การรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ หรือการป้องกันภาวะกระดูกพรุน

การดูแลตัวเองสำหรับผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษ

1. การรับประทานอาหาร:
• หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไอโอดีนสูง เช่น อาหารทะเล หรืออาหารแปรรูปที่เติมเกลือเสริมไอโอดีน

2. การจัดการความเครียด:
• ฝึกโยคะ นั่งสมาธิ หรือหากิจกรรมผ่อนคลาย

3. การออกกำลังกาย:
• เน้นการออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เดิน หรือโยคะ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง

4. การติดตามอาการ:
• เข้าพบแพทย์เพื่อตรวจติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ

สรุป

ภาวะไทรอยด์เป็นพิษเป็นโรคที่ต้องการการดูแลและการรักษาที่เหมาะสม หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถฟื้นตัวและกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ การดูแลตนเองควบคู่กับการติดตามอาการและคำแนะนำจากแพทย์จะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนและเพิ่มคุณภาพชีวิตในระยะยาว

Shopping Cart

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top