Acid reflux and Chronic Cough เป็นกรดไหลย้อนแล้วไอเรื้อรัง ?

Acid reflux and Chronic Cough เป็นกรดไหลย้อนแล้วไอเรื้อรัง ?

Acid reflux and Chronic Cough เป็นกรดไหลย้อนแล้วไอเรื้อรัง ?

อาการไอ เกิดจากร่างกายพยายามขับสิ่งแปลกปลอมออกจากระบบทางเดินหายใจ ซึ่งช่วยลดปริมาณเชื้อโรคในร่างกายได้ แต่ก็เป็นการแพร่กระจายของเชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ด้วยเช่นกัน ไอส่วนใหญ่ มักเกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งมักจะหายในเวลาไม่นาน แต่ถ้าไอเรื้อรัง (Chronic cough) ที่มากกว่า 2 เดือนเป็นต้นไป

เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป สามารถแบ่งตามระยะเวลาของอาการไอ ดังนี้
– ไอเฉียบพลัน เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ  เช่น  หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม ซึ่งหากไม่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ผู้ป่วยจะสามารถฟื้นตัวและหายไอ ภายใ นไม่เกิน 3 สัปดาห์
– ไอกึ่งเฉียบพลัน มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจเช่นกัน แต่ผู้ป่วยอาจมีการติดเชื้อที่รุนแรงกว่า การฟื้นตัวจึงใช้เวลานานกว่า คือประมาณ 3-8 สัปดาห์ขึ้นไป
– ไอเรื้อรัง มีอาการไอติดต่อกันยาวนานกว่า 8 สัปดาห์ ส่วนใหญ่เกิดจากการอักเสบและติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ รวมถึงโรคกรดไหลย้อน

อาจทำให้เกิดภาวะไอเรื้อรังได้ (GERD-related chronic cough: GERD)
– โรคกรดไหลย้อน  (GERD) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อกรดจากกระเพาะอาหาร เคลื่อนตัวขึ้นไปยังหลอดอาหาร ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองของเนื้อเยื่อและนำไปสู่อาการจุกเสียด เรอ คลื่นไส้ และแสบร้อนกลางอก สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อมากเกินไป โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูงและย่อยยาก รวมถึงการดื่มชา กาแฟ ซึ่งมีผลทำให้กล้ามเนื้อหูรูดระหว่างกระเพาะและหลอดอาหารส่วนปลายหย่อน
ทั้งนี้อาการจุกเสียดและแสบร้อนหน้าอกมักเกิดขึ้นมากกว่าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษาอาจทำให้เกิดแผลและความเสียหายถาวรโดยเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งหลอดอาหาร
อย่างไรก็ตาม แม้อาการจุกเสียด แสบร้อนกลางอกและเรอเปรี้ยว จะเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดของ โรคกรดไหลย้อน  แต่อาการไอเรื้อรังก็เป็นอาการหนึ่งที่พบบ่อยเช่นกัน   โดยงานวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่าโรคกรดไหลย้อนมีความเกี่ยวข้องกับอาการไอเรื้อรังอย่างน้อย 25 % รวมถึงผู้ป่วยไอเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ
แต่ที่เชื่อกันมากที่สุดคือ หูรูดของหลอดอาหารส่วนล่างมีการเปิดเป็นช่วงๆ ทำให้มีโอกาสไหลย้อนขึ้นมาถึงคอหอยและหลอดลม แล้วสำลักเข้าไปนิดๆ แล้วกระตุ้นการไอหรือไม่ สิ่งไหลย้อนขึ้นมากระตุ้นหลอดอาหารส่วนล่างเรื้อรัง จนกระทั่งเกิดวงจรประสาท ส่งไปยังก้านสมองแล้วกลับมาที่หลอดลมแทน กระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวปล่อยสารอักเสบที่ผนังหลอดลม แล้วกระตุ้นการไอในที่สุด
 
คนที่เสี่ยงจะมีภาวะไอจากกรดไหลย้อนมากๆ คือ
– อ้วน เพราะมีความดันช่องท้องสูง โครง support กะบังลมกับหูรูดไม่ค่อยดี ดังนั้นเพิ่มความถี่ในการไหลย้อนขึ้นมาก
– สูบบุหรี่ สารพิษในบุหรี่ทำให้หลอดลมไวต่อการกระตุ้นการไอมากขึ้น
– ดื่มสุรา ทำให้หูรูดเปิดง่ายขึ้น แถวกลไกป้องกันตัวของกล่องเสียงก็แย่ลง
– กิจกรรมที่ต้องงอตัวมากๆ ต้องเบ่ง เพิ่มการเกิดกรดไหลย้อนถี่ขึ้น
 
นอกจากนี้ก็ยังมีโรคอื่นที่ทำให้เกิดการไอเรื้อรังและพบว่าการเอ็กซเรย์ปอดปกติ ที่พบได้บ่อย มีดังนี้
1. โรคหอบหืด (Bronchial Asthma) ผู้ป่วยโรคหอบหืดโดยทั่วไปจะมีอาการไอ เหนื่อยง่าย และหายใจมีเสียงวี๊ด แต่ก็มีผู้ป่วยอีกจำนวนมากมีโรคหอบหืดชนิดที่ไม่รุนแรง บางรายไม่เคยมีอาการหืดจับหรือเหนื่อยง่ายเลย มีเพียงไอเรื้อรังเท่านั้น (พบว่าประมาณ 25% ของผู้ป่วยโรคหอบหืดไม่เคยมีอาการหืดจับ) แต่ถ้าตรวจสมรรถภาพปอดจะพบว่า หลอดลมมีความไวต่อสิ่งเร้า (Bronchial Hyperresponsiveness หรือ BHR) นอกจากนั้นผู้ป่วยพวกนี้ที่มีอาการหลอดลมอักเสบเรื้อรัง การตรวจเสมหะจะพบเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด Eosinophils แทนที่จะเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด Neutrophils อย่างที่เห็นในหลอดลมอักเสบทั่วไป Eosinophilic Bronchitis นี้ถือเป็น Cough – Variant Asthma คือ เป็นโรคหอบหืดที่มีหลอดลมตีบแบบไม่รุนแรงจึงไม่มีอาการหอบหืด
2. ผู้ป่วยซึ่งเป็นโรคแพ้อากาศและมีจมูกอักเสบเรื้อรัง (Allergic Rhinitis) ผู้ป่วยพวกนี้จะมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล และมีน้ำมูกไหลลงในคอเวลานอน (Postnasal Drip) ทำให้มีอาการไอเรื้อรัง ผู้ป่วยอาจมีไซนัสอักเสบ (Paranasal Sinusitis) ร่วมด้วย โดยที่สาเหตุของโรคเป็นภูมิแพ้เช่นกัน ดังนั้นเราจึงพบโรคนี้ร่วมกับโรคหอบหืดในผู้ป่วยคนเดียวกันได้บ่อย
3. ผู้ป่วยที่มีกรดในกระเพาะและกรดไหลย้อนกลับเข้ามาในหลอดอาหาร (Gastro-Esophageal Reflux Disease หรือ GERD) ผู้ป่วยพวกนี้อาจมีไอเรื้อรังได้ โดยระบบทางเดินอาหารส่วนบน อาหารผ่านปาก ลำคอ หลอดอาหารส่วนต้น (Esophagus) แล้วลงไปในกระเพาะอาหาร (Stomach) ตรงรอยต่อระหว่างหลอดอาหารส่วนต้นกับกระเพาะอาหารจะมีหูรูดปิดที่เรียกว่า Gastroesophageal Sphincter หรือ Lower Esophageal Sphincter ซึ่งจะกันไม่ให้อาหารและกรดในกระเพาะไหลย้อนกลับขึ้นไปได้
4. ผู้ป่วยที่ทานยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรคความดันสูงและโรคหัวใจ เช่น ยาพวก ACE Inhibitor อาจทำให้ผู้ป่วยที่ใช้ยานี้มีอาการไอเรื้อรังได้ พบได้ราว 2 – 14% ของผู้ใช้ อาการเกิดในราว 3 – 4 สัปดาห์หลังใช้ยา อาการไอมักเป็นแบบไอไม่มีเสมหะ เป็นมากในตอนกลางคืนและเวลานอนราบ อาการจะหายไปเมื่อหยุดยา ยาพวก Beta-Adrenergic Blocking Agent อาจทำให้เกิดการไอในผู้ป่วยที่มีหลอดลมอักเสบเรื้อรังและโรคหอบหืดโดยช่วยทำให้หลอดลมตีบลง
5. ผู้ป่วยที่ใช้เสียงมาก ๆ เช่น ตะโกนมากและพักน้อย เช่น พวกพ่อค้าแม่ค้า หากหยุดพักไม่ใช้เสียง 2 – 3 วัน อาการจะดีขึ้น
6. ผู้ที่ไอหรือกระแอมโดยที่ไม่มีโรค เรียก Psychogenic หรือ Habit Cough การวินิจฉัยมักไม่พบว่ามีสาเหตุของการไออื่น สันนิษฐานว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากจิตใจ มีคนเป็นแบบนี้จำนวนมาก

ทำความรู้จักกับสมุนไพรน่ารู้

ชื่ออื่น กันโตด(เขมร), กำทวด(ราชบุรี), มั่งลู่, สันยาส่า(กะเหรี่ยง แม่ฮ่องสอน)
สรรพคุณ ตำรายาไทย เนื้อผลแห้ง รสเปรี้ยวฝาดขม ขับเสมหะ ทำให้ชุ่มคอ เป็นยาฝาดสมาน แก้ริดสีดวง      แก้บิด ท้องเสีย ใช้ควบกับธาตุเหล็ก แก้โรคดีซ่าน และช่วยย่อยอาหาร  ยางจากผล รสเปรี้ยวฝาดขม  ช่วยย่อยอาหาร ขับปัสสาวะ ใช้เป็นยาแก้ไอ
ตำรับยาแผนโบราณ ผลอ่อน รสเปรี้ยวหวานฝาดขม บำรุงเนื้อหนังให้บริบูรณ์ กัดเสมหะในคอ ทำให้เสียงเพราะ แก้มังสังให้บริบูรณ์ แก้พรรดึก(ท้องผูก) แก้พยาธิ ผลแก่ รสเปรี้ยวฝาดขมเผ็ด แก้ไข้เจือลม แก้ไอ แก้กระหายน้ำ แก้เสมหะ ทำให้ชุ่มคอ ลดไข้ ขับปัสสาวะ ระบายท้อง บำรุงหัวใจ ฟอกโลหิต แก้ลม แก้ลักปิดลักเปิด
ตำรายาไทย มะขามป้อมจัดอยู่ใน “พิกัดตรีผลา” คือการจำกัดจำนวนผลไม้ 3 อย่าง มีม สรรพคุณแก้ปิตตะ วาตะ เสมหะ ในกองธาตุ กองฤดู กองอายุ และกองสมุฎฐาน
องค์ประกอบทางเคมี มีวิตามินซีสูง (ในผลมะขามป้อม 1 ผลมีปริมาณวิตามินซีเทียบเท่ากับส้ม 2 ลูก) นอกจากนี้ยังพบ rutin, mucic acid, gallic acid, phyllemblic acid สารกลุ่มแทนนิน เบนซินอยด์ เทอร์ปีน ฟลาโวนอยด์ อัลคาลอยด์ คูมาริน เป็นต้น

ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบำรุงร่างกาย

อิมมูตี้ (สมุนไพรพลูคาว) ตราคุณสัมฤทธิ์

400.00 บาท740.00 บาท

Shopping Cart

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top