Family Planning การวางแผนมีบุตรสำคัญอย่างไร?

Family Planning การวางแผนมีบุตรสำคัญอย่างไร?

Family Planning การวางแผนมีบุตรสำคัญอย่างไร?

การเตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนครอบครัว (Family Planning) คนที่ใช้ชีวิตคู่ และต้องการมีบุตร ควรเข้ารับการปรึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ ซึ่งรวมถึงการกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมในการมีบุตร จำนวนบุตรรวมถึงการเตรียมรับมือกับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากโรคทางพันธุกรรมโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคประจำตัว และโรคอุบัติใหม่ เช่น โรคโควิด -19 ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพของการตั้งครรภ์ การคลอดและการเลี้ยงดูลูกในอนาคตรวมถึงการเตรียมวางแผนมีบุตร กรณีที่ประสบภาวะมีบุตรยาก

จะเริ่มต้นเตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์อย่างไร

1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ชาย-หญิงวัยเจริญพันธุ์ ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และควรทานอาหารเพื่อช่วยให้ร่างกาย มีความพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ ได้แก่ รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ได้แก่ ตับ เลือด เนื้อสัตว์เนื้อแดงต่างๆ เครื่องในสัตว์ไข่แดง อาหารทะเล ผักใบเขียวเข้ม ถั่วดำ ถั่วแดง ข้าวโอ๊ต เป็นต้น เพื่อช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือด ช่วยลดภาวะซีด
• รับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับรังไข่ ได้แก่ ถั่วเหลือง อัลมอนด์ งาดำ ควินัว เมล็ดฟักทอง โปรตีนจากสัตว์ เช่น ไข่ เนื้อปลานมแพะ อกไก่ ดื่มน้ำมะกรูด เพื่อการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ ช่วยบำรุงรังไข่ให้ผลิตไข่ที่โตสวยสมบูรณ์ ไข่ตกตามปกติ และผนังมดลูกแข็งแรง
• ลดอาหารที่มีแป้งและน้ำตาล เพราะน้ำตาลทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 และโรคอ้วน สามารถทำลายเซลล์รวมไปถึงเซลล์ไข่ของผู้หญิง ทำให้มีบุตรยาก
• รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงอสุจิ ได้แก่ ไข่ ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วปากอ้า ถั่วพู วอลนัท ซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และธาตุเหล็ก ที่ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศได้ดี ช่วยการรักษาระดับฮอร์โมนของผู้ชาย ช่วยเพิ่มความแข็งแรง และปริมาณอสุจิ ปกป้องเซลล์อสุจิไม่ให้เสื่อมง่ายได้อย่างดีเยี่ยม และช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่
• ลดเครื่องดื่มคาเฟอีน เนื่องจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนปริมาณ สูงทุกวันหรือมากกว่า 200 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเทียบเท่าการดื่มกาแฟ 1-2 แก้ว ทำให้โอกาสตั้งท้องน้อยลง และหากตั้งครรภ์จะเพิ่มความเสี่ยงการแท้ง ภาวะตายคลอด ทารกแรกคลอดตัวเล็กและอาจพบทารกแรกคลอดเกิดอาการขาดคาเฟอีน เช่น การนอนหลับผิดปกติ อาเจียน หัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ การหายใจไม่สม่ำเสมอ มีอาการตัวสั่น

2. เสริมด้วนวิตามิน
ความจำเป็นที่จะต้องกินวิตามินเสริมในช่วงของการเตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ เนื่องจากการรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ กับความต้องการของร่างกาย องค์การอนามัยโลก (WHO) มีข้อแนะนำให้รับประทานยาเสริมธาตุเหล็ก ซึ่งประกอบ ด้วยธาตุเหล็ก ขนาด 60 มิลลิกรัม และโฟลิก เอซิด (วิตามิน B9) ขนาด 2.8 มิลลิกรัม สัปดาห์ละ 1 เม็ด ก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 1-3 เดือน และ 3 เดือนแรกหลังจากการตั้งครรภ์ หรือ ให้รับประทานโฟลิกเอซิด (วิตามิน B9) ขนาด 0.4 มิลลิกรัม หรือ 400 ไมโครกรัมโดยรับประทานทุกวันก่อนตั้งครรภ์เพื่อช่วยลดภาวะซีดและลดความเสี่ยงของทารกพิการแต่กำเนิด เช่นลดโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ปากแหว่งเพดานโหว่กลุ่มอาการดาวน์ โรคหลอดประสาทไม่ปิด ภาวะแขนขาพิการแต่กำเนิด

3. ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อย่างน้อย 1 เดือน เมื่อเริ่มวางแผนมีบุตร การดื่มเครื่องดื่ม ที่มีแอลกอฮอล์แม้ปริมาณเพียงเล็กน้อยก็เกิดผลกระทบ ทั้งฝ่ายชายและหญิง ทำให้ตั้งครรภ์ยากขึ้น เพราะปริมาณแอลกอฮอส์เพียงเล็กน้อยสามารถลดจำนวนเชื้ออสุจิลงได้ นอกจากนี้ยังทำให้การดูดซึมแร่ธาตุและวิตามิน
ที่จำเป็นต่อร่างกายของว่าที่คุณพ่อคุณแม่ลดลง จึงควรงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ก่อนการตั้งครรภ์ และหยุดยาวไปจนถึงระยะตั้งครรภ์เพื่อป้องกันการคลอดก่อนกำหนด การแท้งความพิการแต่กำเนิดของทารก ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการของลูกในอนาคต

4. เลิกบุหรี่อย่างน้อย 3 เดือนก่อนการตั้งครรภ์
การสูบบุหรี่มีผลกระทบต่อภาวะเจริญพันธุ์ทั้งชายและหญิง ทำให้มีลูกยากขึ้นหากฝ่ายหญิงสูบบุหรี่อาจจะยับยั้งไม่ให้ไข่เจริญเติบโตเต็มที่ ส่งผลให้ระยะที่ไข่เจริญเติบโตอยู่ในถุงน้ำช้าลง การตกไข่ช้าลง การสูบบุหรี่ทำให้มีโอกาสแท้งบุตรมากขึ้นแม้จะทำการผสมเทียมด้วยวิธี IVF หรือเด็กหลอดแก้ว ก็มีโอกาสประสบความสำเร็จน้อยสารนิโคตินอาจส่งผลให้ไข่มีระดับโครโมโซมผิดปกติไปด้วย หากไม่เลิกบุหรี่ก่อนตั้งครรภ์ เมื่อตั้งครรภ์แล้วจะมีความเสี่ยง ได้แก่
• แท้งบุตรและตายคลอด
• คลอดก่อนกำหนด
• น้ำหนักแรกเกิดต่ำกว่าเกณฑ์
• ความเสี่ยงเป็นโรคไหลตายในเด็ก (SIDS)
• เพิ่มความเสี่ยงของโรคระบบทางเดินหายใจ
• เสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด

5. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การที่มีน้ำหนักมากหรือน้อยเกินไปอาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์ ผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวมากจะตั้งท้องได้ยากกว่าผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวปกติถึง 2 เท่า นั่นเพราะไขมันในร่างกาย มีผลต่อการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเกินไป ทำให้ส่งผลต่อการตกไข่ และเสี่ยงต่อการเกิดภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOs) ส่งผลให้การทำงานของรั่งไข่ผิดปกติประจำเดือนขาด ทำให้มีบุตรยาก

6. หยุดการคุมกำเนิดทุกวิธี
มีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง

7. ตรวจสุขภาพก่อนการตั้งครรภ์
การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ จะทำให้คนที่เตรียมพร้อมเป็นพ่อแม่ได้รู้ภาวะ สุขภาพของตนเอง รวมถึงโรคทางพันธุกรรมที่อาจส่งผลต่อลูก ซึ่งแม้ว่าโรคทางพันธุกรรมจะไม่สามารถป้องกันได้ แต่การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ จะช่วยให้ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจได้ว่าจะมีบุตรหรือไม่ เพราะโดยส่วนใหญ่โรคทางพันธุกรรมนี้จะรู้ได้เมื่อเด็กอยู่ในครรภ์หรือเมื่อเด็กคลอดออกมาแล้ว และการรักษาในปัจจุบันก็สามารถดำเนินการได้โดย รักษาตามอาการ ส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายสูง และต้องรักษาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งโรคทางพันธุกรรมที่พบบ่อย เช่น ธาลัสซีเมีย โรคฮีโมฟีเลียดาวน์ซินโดรม ตาบอดสี โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (SMA) หูหนวก โรควิลสัน โรคกล้ามเนื้อเสื่อมดูเซน เป็นต้น รวมถึงตรวจหาเชื้อโรคที่เป็นพาหะแอบแฝงอยู่ใน ร่างกาย เช่น เชื้อซิฟิลิส เชื้อไวรัสตับอักเสบบีเชื้อเอชไอวี เป็นต้น เพื่อเป็นการป้องกันการติดโรค ที่สามารถติดต่อกันได้ระหว่างคู่รักและป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ลูกด้วย

ผลิตภัณฑ์แนะนำ

Shopping Cart

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top