Foods to Manage Menstrual Pain อาหารรับมืออาการปวดประจำเดือน

Foods to Manage Menstrual Pain อาหารรับมืออาการปวดประจำเดือน

การเลือกทานอาหารในช่วงมีประจำเดือนมีบทบาทสำคัญต่อการลดอาการปวด ท้องอืด และอารมณ์แปรปรวน การบริโภคอาหารที่เหมาะสมช่วยสนับสนุนการทำงานของร่างกายและช่วยฟื้นฟูพลังงานจากการเสียเลือด ขณะเดียวกันการหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภทก็ช่วยลดความไม่สบายตัวได้

อาหารที่แนะนำช่วงมีประจำเดือน

1. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
• ปริมาณน้ำที่แนะนำคือ 2.7 ลิตรต่อวัน
• การดื่มน้ำช่วยชดเชยการสูญเสียน้ำและเลือดในช่วงมีประจำเดือน ช่วยลดอาการปวดหัว มึนศีรษะ และบรรเทาอาการท้องอืด
• หากรู้สึกเบื่อดื่มน้ำเปล่า อาจเพิ่มรสชาติด้วยการใส่มะนาวฝาน หรือใบสะระแหน่

2. อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง
• เช่น ปลา, ไก่, ผักใบเขียว อย่างผักโขม คะน้า บล็อกโคลี และถั่วชนิดต่าง ๆ
• ธาตุเหล็กช่วยฟื้นฟูระดับฮีโมโกลบินในเลือดที่ลดลงจากการเสียเลือด

3. อาหารโปรตีนสูงและกากใยสูง
• เช่น ไข่, เต้าหู้, ธัญพืชเต็มเมล็ด, ถั่ว, และผักหลากสี
• โปรตีนช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้พลังงานคงที่และไม่หิวง่าย ขณะที่กากใยช่วยลดอาการท้องผูกและปรับสมดุลลำไส้

4. โอเมกา-3 (Omega-3)
• พบได้ใน น้ำมันปลา, ปลาแซลมอน, ปลาซาร์ดีน, เมล็ดเจีย, และวอลนัท
• โอเมกา-3 มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ลดการปวดท้องประจำเดือน และบรรเทาอารมณ์แปรปรวน

5. อาหารที่มีวิตามินและเกลือแร่
• เช่น ผลไม้สด (กล้วย, ส้ม, แอปเปิล), ผักหลากสี, และถั่วเมล็ดแห้ง
• วิตามินบี 6 ช่วยบรรเทาอาการปวดและอารมณ์แปรปรวน
• แมกนีเซียมช่วยลดการปวดประจำเดือนและบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงช่วงมีประจำเดือน

1. อาหารเค็ม/เกลือสูง
• เช่น ขนมขบเคี้ยว, อาหารหมักดอง, และซุปกึ่งสำเร็จรูป
• เกลือที่มากเกินไปทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำ ส่งผลให้ตัวบวม ท้องอืด และไม่สบายตัว

2. ของหวาน/อาหารน้ำตาลสูง
• เช่น ขนมเค้ก, ลูกอม, และน้ำอัดลม
• การบริโภคน้ำตาลสูงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแกว่ง ส่งผลต่ออารมณ์แปรปรวนและเพิ่มความอ่อนเพลีย

3. คาเฟอีน (ชา, กาแฟ)
• แม้ว่าการดื่มคาเฟอีนในปริมาณน้อยจะไม่เป็นปัญหา แต่การบริโภคมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำ ปวดหัว หรือกระตุ้นความวิตกกังวล

4. แอลกอฮอล์
• การดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ ส่งผลให้อาการปวดหัวและท้องอืดแย่ลง

5. อาหารรสจัด/เผ็ด
• แม้ว่าอาหารรสเผ็ดจะไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อมดลูก แต่สามารถทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร และนำไปสู่การท้องเสียหรือคลื่นไส้ ซึ่งอาจทำให้อาการช่วงมีประจำเดือนแย่ลง

6. เนื้อสัตว์แดง (เนื้อวัว, เนื้อหมู)
• แม้ว่าอาหารรสเผ็ดจะไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อมดลูก แต่สามารถทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร และนำไปสู่การท้องเสียหรือคลื่นไส้ ซึ่งอาจทำให้อาการช่วงมีประจำเดือนแย่ลง

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการดูแลตัวเองช่วงมีประจำเดือน

1. การเตรียมมื้ออาหารล่วงหน้า
• วางแผนอาหารที่มีประโยชน์ในช่วงก่อนและระหว่างประจำเดือน เช่น การทำซุปผัก ธัญพืชอัดแท่ง หรือสมูทตี้ผลไม้

2. ดื่มชาเพื่อผ่อนคลาย
• ชาเปปเปอร์มินต์และชาคาโมมายล์มีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการปวด ลดอาการเกร็งมดลูก และช่วยให้นอนหลับสบาย

3. ออกกำลังกายเบา ๆ
• การยืดกล้ามเนื้อ โยคะ หรือการเดินช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลดอาการปวดประจำเดือน

4. รับประทานอาหารเสริมหรือสมุนไพร
• เช่น แมกนีเซียม, น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส, และขิง ซึ่งมีประโยชน์ต่อการลดการอักเสบและอาการปวด

สรุป

อาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ลดอาการท้องอืด และเสริมสร้างพลังงานที่เสียไปจากการมีประจำเดือน ขณะเดียวกัน การหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่เหมาะสมช่วยลดความไม่สบายตัวและช่วยให้ช่วงเวลานี้ผ่านไปได้อย่างราบรื่นขึ้น การปรับสมดุลอาหารและดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิงทุกคน

ผลิตภัณฑ์แนะนำที่ช่วยดูแลภายจุดซ่อนเล้นในผู้หญิง

Shopping Cart

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top