Threatened Abortion การแท้งคุกคาม
ภาวะแท้งคุกคาม หรือ Threatened abortion คือ ภาวะผิดปกติของการตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 20 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ โดยหญิงตั้งครรภ์จะมีอาการเลือดออกทางช่องคลอด ซึ่งอาจเป็นเลือดสดหรือมูกเลือด ในขณะที่ปากมดลูกยังไม่เปิด
อาการของภาวะแท้งคุกคาม
หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะแท้งคุกคามจะมีมูกเลือด หรือเลือดสดออกมาจากช่องคลอดปริมาณเล็กน้อยถึงปานกลาง อาจมีเลือดออกระปริกระปรอยเป็นระยะเวลาหลายวันจนถึงหลายสัปดาห์ และมักจะไม่มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย แต่ในบางรายอาจมีอาการปวดหน่วงท้องน้อยคล้ายปวดประจำเดือน ปวดบีบๆ รัดๆตรงกลางท้องน้อยเป็นๆ หายๆ หรือปวดร้าวไปหลังได้ อย่างไรก็ตามภาวะเลือดออกนี้ อาจพบได้ในช่วง 4-5 สัปดาห์หลังจากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย หรือ ประมาณ 2 สัปดาห์หลังการปฏิสนธิ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ทารก หรือถุงการตั้งครรภ์นั้นมีการฝังตัวเข้าไปในเนื้อมดลูก ทำให้มีเลือดออกได้เล็กน้อยและมักจะไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย เรียกภาวะนี้ว่า Implantation bleeding
การที่มีเลือดออกจากช่องคลอด หรือภาวะแท้งคุกคามนี้สามารถพบได้ในหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 20 สัปดาห์ ได้ถึงร้อยละ 20-25 โดยในหญิงตั้งครรภ์กลุ่มนี้ครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) จะมีการแท้งเกิดขึ้นจริงๆ โดยเฉพาะในรายที่มีอาการปวดหน่วงท้องน้อยร่วมด้วย แต่อย่างไรก็ตามอีกร้อยละ 50 ก็จะสามารถดำเนินการตั้งครรภ์ต่อไปได้เหมือนหญิงตั้งครรภ์ปกติรายอื่นๆ
สาเหตุของภาวะแท้งคุกคาม
ภาวะแท้งคุกคามนั้นมักจะไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดที่ทำให้เกิดภาวะเลือดออกดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กับภาวะแท้งคุกคาม และทำให้เกิดการแท้งขึ้นจริงๆได้ คือ
– ความผิดปกติของทารกในครรภ์ เช่น โครโมโซมผิดปกติ ความพิการแต่กำเนิด หรืออาจได้รับยาหรือสารเคมีที่ทำให้ทารกเกิดความผิดปกติตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เป็นต้น
– หญิงตั้งครรภ์มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตวายเรื้อรัง เป็นต้น
– อายุของหญิงตั้งครรภ์ คือ หญิงตั้งครรภ์อายุมากกว่า 35 ปี มีโอกาสเกิดภาวะแท้งได้ร้อยละ 15 แต่หญิงตั้งครรภ์ที่อายุ 15-34 ปี มีโอกาแท้งได้ร้อยละ 4
– ความผิดปกติของมดลูกและโพรงมดลูก เช่น พังผืดในโพรงมดลูก มดลูกมีรูปร่างผิดปกติตั้งแต่กำเนิด เป็นต้น
– การขาดฮอร์โมนเพศที่ช่วยประคับประคองการตั้งครรภ์ ทำให้การฝังตัวของตัวอ่อนหรือถุงตั้งครรภ์ทำได้ไม่สมบูรณ์
– มีประวัติเคยเกิดการแท้งมาก่อน
– ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุบัติเหตุที่กระทบต่อมดลูกหรือบริเวณท้องน้อย มีการติดเชื้อที่ช่องคลอด น้ำหนักตัวมากหรือโรคอ้วน ดื่มสุรา สูบบุหรี่ หรือการใช้สารเสพติด เป็นต้น
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
ภาวะแท้งคุกคาม โดยเฉพาะถ้ามีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย มักจะเกิดการแท้งขึ้นจริงๆ ได้ หรือถ้ามีปริมาณเลือดออกมาก หรือแท้งชิ้นส่วนของการตั้งครรภ์ออกมาไม่ครบ อาจจำเป็นต้องได้รับการยุติการตั้งครรภ์ โดยการขูดมดลูกหรือใช้เครื่องดูดสุญญากาศ นอกจากนี้ในบางรายที่สามารถตั้งครรภ์ต่อไปได้ อาจพบความผิดปกติอื่นๆ เช่น ภาวะรกเกาะต่ำ ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด การคลอดก่อนกำหนด หรือทารกในครรภ์เจริญเติบโตและมีน้ำหนักน้อยได้ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่ของหญิงตั้งครรภ์ที่เลือดหยุดไหลได้เองและไม่พบปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่ทำให้เกิดภาวะแท้ง หญิงตั้งครรภ์รายนั้นก็จะสามารถดำเนินการตั้งครรภ์ต่อไปได้อย่างปกติ
การรักษาและการป้องกัน
ภาวะแท้งคุกคามมักจะรักษาด้วยการประคับประคองหรือการรักษาตามอาการเป็นหลัก โดยไม่จำเป็นต้องให้ยาหรือรักษาด้วยการผ่าตัด
1. แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์สังเกตลักษณะและปริมาณเลือดที่ออก ร่วมกับอาการอื่นๆ ถ้าเป็นมากขึ้นควรรีบมาโรงพยาบาล เพื่อทำการตรวจรักษาเพิ่มเติม
2. ในรายที่เลือดออกน้อย แต่ยังมีอาการปวดหน่วงท้องน้อยร่วมด้วย สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ ยกเว้น ยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDs
3.ในรายที่มีเลือดออกมาก ควรได้รับการดูแลรักษาในโรงพยาบาล เพื่อตรวจติดตามสัญญาณชีพและตรวจวัดระดับความเข้มข้นของเลือด หากเลือดไม่หยุดไหลหรือมีการแท้งเกิดขึ้นจริง อาจพิจารณายุติการตั้งครรภ์
4. แนะนำการปฏิบัติตัว ดังนี้
– พักผ่อนมากๆ (bed rest) หรืองดกิจกรรมที่เพิ่มความดันหรือแรงกระแทกที่บริเวณท้องน้อย (activity restrictions) ถึงแม้ว่าการศึกษาต่างๆ จะพบว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ช่วยลดอัตราการแท้งก็ตาม แต่หากหญิงตั้งครรภ์ได้พักผ่อนก็จะสามารถลดความเครียดหรือความกังวลลงไปได้
– ในช่วงที่ยังมีเลือดออกควรงดการออกกำลังกายและการมีเพศสัมพันธ์
5. การให้ฮอรโมน Progestin ในปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาหรือคำแนะนำสำหรับการให้ฮอร์โมน Progestin ในหญิงตั้งครรภ์เพื่อรักษาหรือป้องกันภาวะแท้งคุกคาม โดยเฉพาะในรายที่ไม่เคยมีประวัติมาก่อน เนื่องจากสาเหตุของการแท้งมักเกิดจากความผิดปกติของทารกเอง แต่ในรายที่มีการแท้งซ้ำหรือได้รับการวินิจฉัยว่าขาดฮอร์โมน Progestin การให้ฮอร์โมนตั้งแต่ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ก็สามารถป้องกันการเกิดภาวะแท้งได้
6. รับประทานยาบำรุงต่างๆ ตามที่แพท์สั่ง ได้แก่ folic acid และวิตามินสำหรับหญิงตั้งครรภ์
สรุป
ภาวะแท้งคุกคามนั้นสามารถพบได้ถึงร้อยละ 20-25 ของหญิงตั้งครรภ์ โดยจะมีอาการเลือดออก ในขณะที่ปากมดลูกยังไม่เปิด หากหญิงตั้งครรภ์รายใดพบว่าตนเองมีเลือดออกจากช่องคลอด ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง หญิงตั้งครรภ์ควรสังเกตลักษณะของเลือด ปริมาณเลือดที่ออก และอาการอื่นๆ ที่เกิดร่วมด้วยเพื่อประกอบการวินิจฉัย อีกทั้งควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ ตั้งสติตนเองเพื่อลดความวิตกกังวล โดยภาวะแท้งคุกคามที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดการแท้งขึ้นจริงในทุกราย แต่ยังมีโอกาสที่การตั้งครรภ์ครั้งนั้นจะดำเนินต่อไปได้อย่างปกติสมบูรณ์ และไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ แก่ทารกและตัวของหญิงตั้งครรภ์เอง
ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสการมีบุตร (สำหรับสตรี)
-
Sale Product on saleผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสามสิบ ตราสมุนไพรคุณสัมฤทธิ์400.00 บาท – 740.00 บาท
-
Sale Product on saleยาน้ำผสมรากสามสิบ600.00 บาท – 1,110.00 บาท
-
Sale Product on saleยาแคปซูลผสมสมุนไพรรากสามสิบ ตรา สมุนไพรคุณสัมฤทธิ์ สูตร 2400.00 บาท – 740.00 บาท
ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสการมีบุตร (สำหรับผู้ชาย)
-
Sale Product on saleยาน้ำผสมกำลังช้างสาร450.00 บาท – 1,680.00 บาท
-
Sale Product on saleยาแคปซูลผสมสมุนไพรกำลังช้างสาร ตรา สมุนไพรคุณสัมฤทธิ์ สูตร2400.00 บาท – 740.00 บาท